วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

ประวัติสามก๊ก เตียวเสี้ยน

ประวัติสามก๊ก เตียวเสี้ยน หญิงงามผู้ไร้ตัวจริงในประวัติศาสตร์
หากเราจะพูดถึงสตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักของคนที่อ่านหนังสือสามก๊กแล้วนั้น ชื่อของเตียวเสี้ยนจะต้องมาเป็นชื่อแรกอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
ทุกคนที่ได้อ่านหรือเคยดูสามก๊กนั้นกว่า 99% ผมเชื่อว่าต้องรู้จักและได้ยินชื่อของสตรีคนนี้แน่ ทั้งที่ในเรื่องสามก๊กนี้ก็มีสตรีที่มีชื่อเสียงคนอื่นอยู่อีกพอควร แต่เชื่อเถอะว่าบางคนรู้จักแค่เตียวเสี้ยนเท่านั้น นั่นเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าเธอเป็นสตรีที่มีผู้รู้จักมากที่สุดในเรื่องสามก๊ก
ในประวัติศาสตร์จีนนั้นได้จัดอันดับหญิงงามที่สุดไว้ทั้งหมด 4 คน ประกอบไปด้วย
ไซซี ยุคราชวงศ์โจว
หวางเจาจวิน ยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันตก
เตียวเสี้ยน ยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก
หยางกุ้ยเฟย ยุคราชวงศ์ถัง
เตียวเสี้ยนถือเป็นหญิงงามอันดับที่สามจากหญิงงามทั้งสี่คน
แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่า เตียวเสี้ยนหญิงงามที่คนทั่วไปต่างก็รู้จักเธอผ่านนิยายสามก๊กนั้นเป็นบุคคลที่ไม่ได้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
เธอเป็นเพียงสตรีที่ถูกสร้างขึ้นจากปลายปากกาของหลอก้วนจงนักเขียนอัจฉริยะผู้แต่งนิยายสามก๊ก "ซานกั๋วเหยี่ยนอี้" ที่โด่งดังไปทั่วโลก มันก็เท่านั้น
แต่ถึงกระนั้นบทบาทของเธอที่ปรากฏในเรื่องสามก๊กก็เป็นวีรกรรมที่ไม่มีใครลืมเลือนและยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าวีรกรรมของเหล่าบุรุษอีกนับพันนับหมื่นคนในยุคเดียวกัน
ประวัติโดยย่อ
.................................................................................................
.................................................................................................
.................................................................................................
ที่เห็นเป็นจุดๆนั่นไม่ใช่อะไรหรอกเพราะว่าประวัติของเธอนั้น
มันไม่มีครับ!!!!
จะไปมีได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อสตรีนางนี้เป็นตัวละครหนึ่งในอีกหลายสิบตัวในเรื่องสามก๊กที่มิได้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ แต่เกิดจากจินตนาการของหลอก้วนจง
เธอเป็นหญิงงามที่มีประวัติส่วนตัวน้อยที่สุดหากเทียบกับหญิงงามคนอื่นๆในประวัติศาสตร์แต่กลับเป็นหญิงงามที่มีผู้รู้จักมากที่สุด ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องนี้มันก็น่าแปลกดีเหมือนกัน
เอาเป็นว่าหากจะให้เล่าประวัติของเธอ ผมจะขอบอกกล่าวตามที่เขียนไว้ในนิยายสามก๊กก็แล้วกันนะ
เธอเป็นบุตรสาวบุญธรรมของอ้องอุ้นเสนาบดีใหญ่แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออกในยุคของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ แต่บางฉบับก็ว่าเธอเป็นนางกำนัลของอ้องอุ้น
ครั้งนั้นตั๋งโต๊ะเจ้าเมืองเสเหลียงได้นำกองทัพหลายแสนเข้ามายึดอำนาจในเมืองหลวง และตั้งตัวเองขึ้นเป็นมหาอุปราช ผู้สำเร็จราชการสูงสุด และกุมอำนาจทั้งหมดเหนือพระเจ้าเหี้ยนเต้
ตั๋งโต๊ะถือเป็นทรราชย์ตัวจริงเสียงจริงที่มีความโหดเหี้ยมแบบสุดๆในยุคสามก๊กนั้น ความเลวทรามและความอำมหิตของเขานั้นเป็นของจริงที่แม้แต่โจโฉซึ่งเป็นอุปราชแทนเขาในภายหลังก็เทียบไม่ติด เพราะอย่างน้อยบ้านเมืองยุคที่โจโฉปกครองนั้นก็ยังมีความสงบสุข ผู้คนทั่วไปสามารถทำมาหากินได้โดยไม่อดอยาก บรรดาทหารและขุนนางผู้ใต้บัญชาก็สามารถอยู่ได้อย่างปกติสุข หากว่าไม่ไปทำให้โจโฉขุ่นเคืองใจมากๆ
แต่ตั๋งโต๊ะนั้นต่างออกไป บ้านเมืองในยุคที่เขาปกครองนั้นเป็นนรกบนดินของแท้ บรรดาขุนนางหากไม่พูดประจบประแจงก็ไม่อาจจะเอาชีวิตรอดได้ ราชสำนักในยุคตั๋งโต๊ะนั้นแทบจะเป็นโรงฆ่าสัตว์เลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ตั๋งโต๊ะยังเป็นจอมกากขฬะที่สั่งเกณฑ์หญิงสาวอายุแรกแย้มจากทั่วเมืองหลวงให้เข้ามาปรนเปรอตนเองอย่างนับไม่ถ้วนไม่เว้นแต่ละวัน
ความเลวร้ายของตั๋งโต๊ะนี้ใช่ว่าจะไม่มีผู้พยายามหยุดยั้ง มีหลายคนคิดลอบสังหารแต่ก็ทำไม่ได้เพราะข้างกายของตั๋งโต๊ะนั้นมีลูกบุญธรรมและขุนศึกอันดับหนึ่งของยุคสามก๊กอย่างลิโป้อยู่ตลอดเวลา
เพื่อไม่ให้เรื่องเยิ่นเย้อเกินไป ดังนั้นเกี่ยวกับลิโป้นี้ ใครที่อยากรู้เพิ่มเติมก็ให้ไปอ่านที่เรื่องของลิโป้ซึ่งผมได้เขียนไว้ก่อนแล้วนะครับ
ความโหดร้ายของตั๋งโต๊ะทำให้ผู้คนประณามไปทั่ว และก็มีผู้ต่อต้านที่เด่นชัดขึ้นมา
กองทัพพันธมิตรที่เกิดจากการรวมพลังกันของเจ้าเมือง 18 หัวเมืองจึงได้เกิดขึ้นและผลการศึกที่ด่านกิสุยก๋วนนั้นก็ออกมาแบบที่ไม่อาจหาผู้แพ้และชนะได้ นั่นเพราะตั๋งโต๊ะได้ย้ายเมืองหลวงหนีไปอยู่ที่เมืองเตียงฮันโดยนำเอาฮ่องเต้ที่ยังเด็กไปด้วย และเผาเมืองหลวงลกเอี๋ยงจนราบเป็นหน้ากอง ส่วนทัพพันธมิตรก็แยกสลายลงเพราะขัดแย้งกันเองในเรื่องของผลประโยชน์
เมื่อย้ายเมืองหลวงมาที่เตียงฮันแล้วตั๋งโต๊ะก็ยังคงปกครองด้วยความโหดร้ายทารุณต่อไป ซึ่งท่ามกลางเสียงสาปแช่งและโหยหวนของราษฎรนั้น ก็ได้มีผู้คิดวางแผนสังหารตั๋งโต๊ะขึ้นมาอย่างลับๆ คนผู้นั้นก็คือเสนาบดีใหญ่อ้องอุ้น
อ้องอุ้นทนต่อการปกครองอันเลวร้ายนี้ไม่ได้ แต่ตัวเขาเองก็เป็นขุนนางคนหนึ่งที่ต้องก้มหัวและทำงานให้ตั๋งโต๊ะเพื่อเอาชีวิตรอด เขาจึงอดคิดไม่ได้ว่าหากอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อไปตัวเขาอาจต้องถูกรุมประสาปแช่งจากผู้คนได้เช่นกัน จึงคิดว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากสังหารตั๋งโต๊ะลงเสียเพื่อดับทุกข์ให้ปวงประชาและขณะเดียวกันก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของตัวเองไม่ให้เน่าเหม็น
ในนิยายสามก๊กเล่าว่าในขณะที่อ้องอุ้นกำลังนั่งถอนใจในห้องตัวเองนั้นเตียวเสี้ยนผู้เป็นสาวใช้ได้เดินเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง
เตียวเสี้ยนนั้นได้รับความเอ็นดูจากอ้องอุ้นเหมือนเป็นบุตรสาวจึงได้สาบานต่อเขาว่าหากมีสิ่งใดที่เธอทำให้ได้เธอจะยอมสละชีวิตให้ และในตอนนั้นเองอ้องอุ้นจึงคิดแผนการขึ้นมาได้
แผนนางงาม
เป็นแผนง่ายๆที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน โดยใช้ให้หญิงงามยั่วยุให้สองฝ่ายเข่นฆ่ากันเองหรือไม่ก็ใช้หญิงงามทำให้เป้าหมายหลงคลั่งไคล้จนเสียผู้เสียคน ซึ่งก่อนหน้านี้ในประวัติศาสตร์ก็เคยมีผู้ใช้แผนนี้สำเร็จนี้มามากแล้ว แต่ถึงกระนั้นแผนนี้ก็ยังคงใช้ได้ดีแม้จะในยุคนี้ก็ตาม นั่นเพราะสันดานของผู้ชายและผู้มีอำนาจนั้นไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยก็ไม่เปลี่ยนไปเลย นั่นคือความบ้าผู้หญิงจนหน้ามืดตามัวจนเสียการงาน
เตียวเสี้ยนในฉบับนิยายนั้นจะว่าไปแล้วก็ไม่ได้บรรยายไว้ว่าสวยงามมากแค่ไหน แต่คงจะสวยมากทีเดียว
อ้องอุ้นได้เริ่มแผนการขั้นแรกโดยการเชิญลิโป้มายังจวนของตนเอง และได้หาทางให้ลิโป้ได้พบกับเตียวเสี้ยนซึ่งได้ผ่านการขัดสีจนสวยงามมาแล้ว
ลิโป้ตกหลุมรักในทันใดและได้สู่ขอแต่งงานกับเตียวเสี้ยนในทันที ซึ่งอ้องอุ้นก็รับปากว่าจะส่งนางให้ในภายหลัง
วันต่อมาอ้องอุ้นก็ได้เชิญตั๋งโต๊ะมาที่จวนโดยจัดงานเลี้ยงให้จากนั้นก็ส่งเตียวเสี้ยนให้ออกมาร่ายรำ ตั๋งโต๊ะเมื่อได้พบกับนางก็หลงเสน่ห์ในทันที อ้องอุ้นจึงเอ่ยปากยกให้ ซึ่งแน่นอนว่าจอมตัณหาอย่างตั๋งโต๊ะย่อมไม่ปฏิเสธ
วันต่อมาเมื่อลิโป้จะมาขอตัวเตียวเสี้ยนที่จวนของอ้องอุ้นก็พบว่าตั๋งโต๊ะได้เอานางไปแล้วจึงโวยวายกับอ้องอุ้นแต่อ้องอุ้นก็หาทางออกโดยการบอกว่าตั๋งโต๊ะได้ขอตัวนางไปก่อนเพื่อจะยกให้เป็นเมียลิโป้ในภายหลังจะได้ถูกธรรมเนียม
ลิโป้เชื่อจึงกลับเข้าวังแต่แล้วจากนั้นเมื่อไปเข้าพบตั๋งโต๊ะที่ห้องนอนก็ได้พบว่ามีเตียวเสี้ยนอยู่ด้วย ลิโป้จึงแค้นมากแต่ก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เก็บความแค้นเอาไว้ในอก
นับแต่นั้นมาเวลาที่เตียวเสี้ยนอยู่กับตั๋งโต๊ะเพียงลำพังก็จะใช้จริตมารยายั่วยวนจนตั๋งโต๊ะหลงใหล แต่หากว่ามีลิโป้อยู่ด้วยนางก็จะแอบส่งสายตาให้ และเมื่อบางครั้งที่ได้อยู่กับลิโป้เพียงลำพัง นางก็จะร้องว่าตั๋งโต๊ะใช้กำลังเข้าข่มขู่นางไม่อาจปฏิเสธได้ แต่เมื่อเวลาที่ตั๋งโต๊ะสงสัยว่านางกับลิโป้มีชู้กันนางก็จะว่าลิโป้หาทางจะลวนลามนางและขู่ว่าจะฆ่าตัวตายหากว่าตั๋งโต๊ะไม่เชื่อ เมื่อตั๋งโต๊ะห้างนางไว้ได้นางก็โผเข้าร้องไห้ที่ตัวของตั๋งโต๊ะ
เจอไม้นี้เข้าไปอย่าว่าแต่ตั๋งโต๊ะเลย ผู้ชายคนอื่นๆก็คงจะเชื่ออย่างสนิทใจ
แผนขั้นสองนี้ลุล่วงไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายคือลิโป้และตั๋งโต๊ะนั้นต่างก็ระแวงและไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันอีก จากนั้นอ้องอุ้นที่ทราบข่าวจากข้างนอกแล้วก็ได้ดำเนินการขั้นสุดท้ายด้วยการยุให้ลิโป้สังหารตั๋งโต๊ะเสียเพื่อแย่งนางกลับมา อีกทางหนึ่งก็อ้างว่าเป็นการทำเพื่อราษฎรและจะทำให้ชื่อของลิโป้นั้นกลายเป็นที่แซ่ซ้องสรรเสริญ
ลิโป้แม้จะเก่งกาจแต่เขาขาดซึ่งความเป็นตัวของตัวเองและไร้สติปัญญา ในที่สุดด้วยคำยุยงของอ้องอุ้น ลิโป้จึงได้ทำการสังหารตั๋งโต๊ะได้สำเร็จ (รายละเอียดเรื่องการสังหารตั๋งโต๊ะนี้หาอ่านได้ในเรื่องของลิโป้จ้า)
หลังจากสังหารตั๋งโต๊ะได้แล้ว ลิโป้ก็เอาเตียวเสี้ยนมาเป็นเมียของตนสมใจ และเข้าควบคุมอำนาจในเมืองหลวงแต่ก็ได้ไม่กี่วันเท่านั้น เพราะกองทัพของลิฉุยและกุยกีลูกสมุนของตั๋งโต๊ะที่อยู่นอกเมืองได้นำทัพเข้าเพื่อล้างแค้นให้ตั๋งโต๊ะ
ทหารของลิโป้นั้นมีน้อยกว่าจึงไม่อาจต้านทานได้และในความวุ่นวายอ้องอุ้นและครอบครัวก็ได้ถูกทหารของลิฉุยกุยกีสังหารล้างโคตร ส่วนลิโปนั้นตีฝ่าหนีไปได้
นับจากตรงนี้เป็นต้นไปเตียวเสี้ยนไม่ได้มีบทบาทในเรื่องสามก๊กอีกแม้แต่ครั้งเดียว
เธอหายไปชนิดที่คนอ่านและคนที่ดูหนังหลายคนคงจะสงสัยขนาดหนักว่าหายไปไหน
ผมก็จะตอบให้ว่านั่นเพราะเธอไม่ได้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์นั่นเอง!!!
ถ้างั้นแล้วทำไมลิโป้ถึงได้สังหารตั๋งโต๊ะเพราะหากว่าเตียวเสี้ยนไม่ได้มีตัวตนแล้วพวกเขาทั้งคู่ก็ไม่น่าที่จะมีเรื่องผิดใจกัน
อันนี้ต้องขออ้างอิงจากสามก๊กฉบับของเฉินโซ่วซึ่งเป็นสามก๊กฉบับแรกและเป็นฉบับประวัติศาสตร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นฉบับที่มีความเที่ยงตรงและใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
ผมใช้คำว่าใกล้เคียงนะครับไม่ใช้คำว่าตรง เพราะในโลกนี้ไม่มีบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับไหนที่จะถูกต้องและตรงกับความเป็นจริงไปหมด เนื่องจากโดยมากแล้วบันทึกประวัติศาสตร์นั้นเป็นสิ่งที่เขียนขึ้นโดยคำสั่งของผู้มีอำนาจ ดังนั้นมันจึงมักมีเนื้อหาเบี่ยงเบนไปเพื่อประโยชน์และชื่อเสียงของผู้มีอำนาจทั้งหลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าผู้มีอำนาจในยุคนั้นจะมีใจกว้างมากแค่ไหน หากเป็นผู้มีอำนาจที่ใจกว้างและไม่ยึดติดคำวิจารณ์มากนัก บันทึกประวัติศาสตร์ของยุคนั้นก็จะมีเนื้อหาเที่ยงตรงและเชื่อถือได้เป็นพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีตัวแปรในเรื่องอคติของผู้บันทึกประวัติศาสตร์ด้วย หากว่าคนเขียนนั้นมีอคติต่ออีกฝ่ายหนึ่งมาก ฝ่ายที่ถูกเขียนถึงก็อาจจะกลายเป็นตัวร้ายไปได้เลย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วคนๆนั้นอาจจะเป็นคนที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองไม่ใช่น้อย
.............................ชักไปยาวแล้วแฮะ เอาเป็นว่าขอวกกลับไปเรื่องความขัดแย้งของลิโป้และตั๋งโต๊ะต่อนะ
ในสามก๊กฉบับเฉินโซ่วได้มีเขียนไว้ว่าลิโป้ไปมีชู้กับผู้หญิงในวังซึ่งเป็นหญิงคนที่ตั๋งโต๊ะโปรดเป็นพิเศษ แล้วถูกจับได้จึงทะเลาะและเกิดผิดใจกันอย่างหนัก แต่ภายหลังปรับความเข้าใจกันได้ แต่ถึงกระนั้นลิโป้ก็เริ่มไม่พอใจในตัวตั๋งโต๊ะแล้ว และยังมีอีกเหตุนั่นคือตั๋งโต๊ะนั้นเป็นคนที่โมโหร้าย และมักชอบมาลงกับคนอื่น ลิโป้เองก็เคยโดนความโมโหร้ายนี้เล่นงานหลายครั้ง
เมื่อความไม่พอใจสะสมมากๆเข้าอ้องอุ้นซึ่งหาช่องทางอยู่แล้วจึงยุยงให้ลิโป้สังหารตั๋งโต๊ะ และลิโป้ก็ตกลง เรื่องมันก็เท่านั้น
ที่เรื่องมันง่ายก็เพราะว่าทั้งลิโป้และตั๋งโต๊ะต่างเป็นพวกบ้าผู้หญิงและทรัพย์สมบัติเหมือนๆกัน ดังนั้นการจะผิดใจกันในเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถึงแม้ลิโป้จะเป็นบุตรบุญธรรมของตั๋งโต๊ะก็เถอะ แต่อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้เขาก็เคยเป็นบุตรบุญธรรมของเต็งหงวนมาก่อนและยอมฆ่าเต็งหงวนเพียงเพื่อม้าและทรัพย์สมบัติมาแล้ว (ไปอ่านในเรื่องลิโป้นะ สำหรับคนที่ไม่รู้)
การที่ลิโป้สังหารตั๋งโต๊ะจึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายมากนัก แม้จะไม่มีหญิงงามอย่างเตียวเสี้ยนก็ตามที
เตียวเสี้ยนเป็นเพียงตัวละครที่หลอก้วนจงสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มสีสันให้เรื่องสามก๊กที่เต็มไปด้วยเรื่องฆ่าฟันให้คนดูงิ้วและคนอ่านได้เพลิดเพลินกับบทรักของลิโป้และเตียวเสี้ยนบ้าง
ยังมีข้อสนับสนุนหนึ่งที่ว่าเตียวเสี้ยนไม่มีจริงนั่นคือเรื่องมารยาหญิงของนาง
ตอนที่นางตกเป็นของตั๋งโต๊ะนั้นนางยังเป็นเพียงสาวแรกแย้มอายุเพียง 16 ปีที่ยังไม่เคยผ่านมือชายมาก่อนแม้แต่คนเดียว สาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเช่นนั้นจะมีจริตมารยาที่ร้ายกาจถึงขนาดปั่นหัวผู้มีอำนาจ 2 คนได้ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ
ในอดีตนั้นเคยมีหญิงงามที่ใช้เสส่นห์มารยาจัดการกับผู้มีอำนาจแบบเดียวกับเตียวเสี้ยนมาก่อนเช่นกัน และเป็นหญิงงามตัวจริงในประวัติศาสตร์ด้วย นางมีชื่อว่าไซซีผู้ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของแผ่นดินจีน
เล่าย่อๆละกันว่าไซซีนั้นเป็นจารสตรีที่ทางเจ้าเมืองหวูคือโกวเจี้ยนนั้นส่งให้ไปใช้ความงามทำให้ฟูไซยอดกษัตริย์ผู้ปรีชาแห่งเมืองเวียตหลงใหล และก็ได้ผลจริงๆ ฟูไซนั้นหลงใหลไซซีจนเสียงานและเมื่อโกวเจี้ยนยกทัพมาเมืองเวียตจึงพ่ายแพ้แก่เมืองหวู
แต่กว่าที่ไซซีจะถูกส่งไปทำงานชิ้นนี้นั้น นางต้องผ่านการฝึกอบรมในการใช้จริตมารยาหญิงเป็นเวลานานถึง 6 ปีเต็ม
แล้วเตียวเสี้ยนผู้ไม่เคยผ่านการฝึกฝนนี้มาเลย แต่เป็นเพียงแค่หญิงสาวแรกแย้มเท่านั้นจะมีจริตมารยาถึงขนาดเล่นงานลิโป้และตั๋งโต๊ะได้เชียวหรือ
ถ้าจะบอกว่าเพราะเตียวเสี้ยนนั้นงามมาก ผมขอถามว่าผู้หญิงในวังนั้นมีมากมาย หลายคนนั้นมากด้วยจริตมารยาและเอาใจเก่ง อ้องอุ้นจะแน่ใจได้ไงว่าลำพังแค่ความงามของเตียวเสี้ยนจะสามารถทำให้ตั๋งโต๊ะและลิโป้หลงใหลได้หัวปักหัวปำ
นอกจากนี้ยังเรื่องเกี่ยวกับการตายแบบแปลกๆของเตียวเสี้ยนที่เล่าไว้ในนิทานพื้นบ้านอีกที่มันค่อนข้างไม่น่าเชื่อถือนัก
เช่นนางตายเพราะถูกกวนอูฆ่า เนื่องจากกวนอูเห็นว่าความงามของนางนั้นทำให้ผู้ชายหลงใหลได้และอาจจะเป็นภัยต่อบ้านเมือง
น่าตลกดีเพราะความดีและวีรกรรมที่นางได้สร้างไว้ด้วยการทำให้ลิโป้และตั๋งโต๊ะซึ่งเป็นทรราชย์ต่อแผ่นดินทั้งสองฆ่ากันตายนั้นเป็นความดียิ่งใหญ่ต่อปวงประชาและแผ่นดินอย่างหาที่ใดเปรียบได้ แม้แต่วีรกรรมของกวนอูในชั่วชีวิตเองก็เทียบไม่ได้
ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง เตียวเสี้ยนจึงมิได้เป็นบุคคลที่ตัวตนจริงในประวัติศาสตร์!!!
แต่หากว่านางมีตัวตนอยู่จริงๆล่ะก็ ผมก็ขอยกย่องและถือว่านางเป็นตัวแทนของสตรีที่ยอมอุทิศร่างกายและชีวิตเพื่อความสุขของปวงประชาและบ้านเมือง แล้วจากนั้นก็ถูกลืมเลือนไปจากประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับสตรีอีกหลายคนที่เมื่อทำงานเพื่อชาติสำเร็จแล้วก็ไม่มีใครออกมารับผิดชอบชีวิตของพวกนางเหล่านั้นอีก
ขอมอบแด่สตรีผู้ไร้ตัวตนในหน้าประวัติศาสตร์คนนี้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น