วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

สามก๊ก ตอนที่ 42 โจโฉแตกทัพเรือ

สามก๊ก ตอนที่ 42 โจโฉแตกทัพเรือ

ฝ่ายโจโฉนั้นตั้งใจคอยฝั่งอุยกายอยู่ตลอดเวลา ครั้นถึงเวลาเห็นอุยกกายนำเรือเข้ามาใกล้ เทียหยกเห็นผิดสังเกตจึงว่าแก่โจโฉ โจโฉเห็นชอบด้วยจึงให้บุนเพ่งไปห้ามเรือเสียก่อน อุยกายเห็นได้ทีดังนั้นก็สั่งเรือเร่งเข้าไปจุดไฟขึ้น ครั้นลมสลาตันพัดหนักกล้า ทหารโจโฉก็เข้าดับเพลิงมิทัน เรือที่ผูกติดกันแก้ไม่ได้ก็ถูกเพลิงวอดสิ้นเพลิงลามติดเป็นหลายตำบล ทหารโจโฉก็วิ่งวุ่นวายไปการนั้นโกลาหลนัก ขณะนั้นทัพจิวยี่ จิวท่าย ชีเซ่ง เตงฮองมาถึงก็ตีหักเข้าไป ทหารจิวยี่เข้าไปถึงไหน เพลิงก็ลุกติดขึ้น แลทหารโจโฉหนีมิทันต้องอาวุธเจ็บปวดล้มตายเป็นอันมาก ที่หนีมิทันก็ตายในกองเพลิงบ้าง ตกน้ำตายบ้าง

ฝ่ายโจโฉเห็นดังนั้นก็ตกใจขี่ม้าหลบหนีไปทางตำบลฮัวหลิมพบลิบอง เล่งทองเข้าไล่ตีตามมา เตียวเลี้ยวกับซิหลงก็เข้าสู้เป็นสามารถมิได้แพ้ชนะกัน ซิหลงก็พาโจโฉหนีต่อ พบกำเหลงดักทางอยู่จึงหนีไปทางหับป๋า

ครั้นหนีมาใกล้ตำบลฮัวหลิมพบจูล่งเข้าสกัดทางอยู่ เตียวคับ เตียวเลี้ยวก็เข้าช่วยป้องกันทางด้านหลัง แลทหารโจโฉทิ้งม้าแลศัสตราวุธเป็นอันมากแล้วโจโฉก็สั่งให้รีบหนีไป ครั้นมาถึงตำบลโฮเลาก๊ก ก็ให้หยุดหุงอาหารอยู่ยังมิทันสุกได้กิน เตียวหุยก็เข้าล้อมไว้ เคาทู เตียวเลี้ยว ซิหลง ก็เข้าป้องกันเป็นสามารถแล้วรีบหนีไป ทหารที่หนีมานั้นก็อิดโรยทั้งต้องอาวุธบาดเจ็บเป็นมากแลเห็นทางเข้าลำกุ๋น ก็หลงในกลขงเบ้ง เข้าไปทางน้อยแลทางนั้นแคบเดินลำบากนักโจโฉก็ให้เร่งให้เดินไป ครั้นพ้นซอกเขาโจโฉก็หัวเราะขึ้นแล้วว่า หากขงเบ้งให้คนมาซุ่มอยู่ตรงนี้เห็นตัวจะมิรอดแน่ครั้นขาดคำได้ยินเสียง ประทัด กวนอูถือง้าวคุมสกัดทางไว้ โจโฉเห็นจวนตัวจะมิรอดทหารที่มาก็เหลือเพียงร้อยเศษ จึงวอนกวนอูให้ปล่อยตัวให้พ้นภัย กวนอูนึกถึงครั้งสมัยที่โจโฉเลี้ยงดูตนนึกสงสารจึงหลีกทางให้โจโฉไป

ฝ่ายโจโฉหนีมาพบโจหยิน คิดยกกลับฮูโต๋ ให้โจหยินอยู่รักษาเมืองลำกุ๋น แฮหัวตุ้นรักษาเมืองซงหยง เตียวเลี้ยวรักษาเมืองหับป๋า แล้วโจโฉก็จัดแจงทหารยกกลับไปฮูโต๋ ฝ่ายจิวยี่ครั้นรบมีชัยจึงยกกองทัพไปตั้งอยู่ที่ตำบลลิมกั๋ง หวังจะคิดอ่านไปตีเมืองลำกุ๋น

สามก๊ก เทียหยก

เทียหยก (อังกฤษ: Cheng Yu; จีนตัวเต็ม: 程昱; จีนตัวย่อ: 程昱) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก ที่ปรึกษาคนสำคัญของโจโฉ ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่โจโฉหลายครั้ง เป็นผู้ใช้อุบายดึงตัวชีซีจากเล่าปี่ และเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นว่าเรือเสบียงของอุยกายที่มาสวามิภักดิ์มีพิรุธ ซึ่งความจริงเป็นเรือเชื้อเพลิงของอุยกายที่ใช้เอาทัพเรือโจโฉตามอุบายของจิวยี่

สามก๊ก ตอนที่ 41 ขงเบ้งเรียกลมตะวันออก

สามก๊ก ตอนที่ 41 ขงเบ้งเรียกลมตะวันออก

ฝ่ายจิวยี่วิตกอยู่ด้วยหาคนไปสอดแนมฝ่ายโจโฉ อุยกายเห็นดังนั้นจึงอาสาทำทีเป็นเข้าด้วยโจโฉ จิวยี่มีความยินดีนัก รุ่งเช้าจึงสั่งให้โบยอุยกายเสียทำทีให้เจ็บแค้น แล้วส่งงำเต๊กไปแต่งกลลวงโจโฉ โจโฉก็สำคัญเชื่อให้หาอุยกายเข้ามา ครั้นยังคลางแคลงใจอยู่ จึงหาผู้อาสาไปสอดแนมราชการที่เมืองกังตั๋ง ดูว่าเป็นจริงแลร้ายประการใด ฝ่ายเจียวก้านเห็นดังนั้นจึงว่าตัวขออาสาไปสอดแนมอีกครั้ง ด้วยขอแก้ตัวซึ่งครั้งก่อนซึ่งทำการพลาดไป โจโฉก็ยินยอมให้ไป

ครั้นเจียวก้านมาถึงจิวยี่ก็ทำทีเป็นโกรธแล้วให้ไปคุมไว้ ณ วัดเชิงเขา ฝ่ายเจียวก้านมีความทุกข์ มิเป็นอันกินอันนอน พบบังทองเจียวก้านจึงเข้าไปคำนับแล้วว่าท่านนี้หรือคืออาจารย์ฮองซู มีความยินดีเป็นอันมากจึงเชิญไปพบโจโฉ ณ ค่ายโดยหารู้ไม่ว่าต้องกลอุบายจิวยี่เสียแล้ว

ครั้นเจียวก้านพาบังทองมายังค่าย โจโฉก็มีความยินดีนักแล้วพาบังทองไปชมทัพเรือ บังทองเห็นดังนั้นจึงแสร้งแนะนำให้ผูกเรือติดกันเข้าไว้ด้วยโซ่ตรวนเพื่อไม่ ให้ทหารเมาคลื่นระส่ำระสาย ด้วยเรือธรรมดานั้นโคลงเคลงทหารโจโฉไม่สันทัดจึงอาจเมาได้ง่าย โจโฉมิทันคิดก็มีความยินดีนัก แล้วให้เร่งทำการตามบังทองบอก แล้วบังทองก็ลวงโจโฉว่าจะไปเกลี้ยกล่อมคน ณ เมืองกังตั๋งให้เข้าด้วยโจโฉ โจโฉมีความยินดีนักจึงให้ไป ฝ่ายเทียหยกจึงเข้าว่าให้เรือผูกติดกันฉะนี้หากข้าศึกใช้เพลิงเผาเสียก็จะมี อันตรายเป็นมั่นคง โจโฉได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่าฤดูนี้เป็นเทศกาลแจ้งเห็นแต่จะมีลมว่าว แต่ลมตะวันตกหากจิวยี่ใช้ เพลิงก็จะกลับเข้าไปเผาตัวเองเป็นมั่นคง

ฝ่ายจิวยี่แลเห็นปลายธงพัดมาจากต้นลม ณ ค่ายโจโฉก็สะดุ้งใจ จึงคิดว่าการที่คิดไว้เห็นจะไม่เป็นผล ด้วยลืมฉุกคิดถึงเรื่องลมเสีย ว่าแล้วก็อาเจียนโลหิตสลบลงกับที่แล้วก็ป่วยอยู่ ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็เข้าพบจิวยี่รู้ว่า ณ เดือนอ้ายแรมห้าค่ำจะเกิดลมสลาตัน จึงแสร้งว่าสามารถทำพิธีเรียกลมสลาตันได้ จิวยี่รู้ดังนั้นมีความยินดีที่ป่วยอยู่ก็คลายลง

ครั้น ณ เดือนอ้ายแรมสามค่ำขงเบ้งก็ทำพิธี จิวยี่จึงให้อุยกายจัดแจงกองทัพไว้ให้พร้อม รอลมมาจะยกทำการตีโจโฉทันที ถึงเวลาสองยามเศษได้ยินเสียงลมจากทิศอาคเนย์อื้ออึงมา จิวยี่จึงมีความยินดีเห็นคงเบ้งมีสติปัญญาเป็นอันมากจึงส่ง ชีเซ่ง เตงฮองไปฆ่าเสีย ฝ่ายขงเบ้งพอเรียกลมเสร็จแล้วก็หลบหนี ไปพบจูล่ง ณ ริมฝั่ง ฝ่ายชีเซ่ง เตงฮองตามไปก็อาจสู้จูล่งได้ ครั้นขงเบ้งมาถึงก็ให้เล่าปี่ไปรอดักซุ่มตีทางหนีโจโฉ

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

สามก๊ก ตอนที่ 40 ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์

สามก๊ก ตอนที่ 40 ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์

ฝ่ายชัวมอ เตียวอุ๋นจัดแจงฝึกทัพเรือให้กล้าแข็ง ด้วยทหารโจโฉเป็นชาวเหนือไม่ชำนาญทางเรือ จิวยี่รู้ดังนั้นก็คิดอุบายกำจัดชัวมอ เตียวอุ๋นเสีย พอดีเจียวก้านข้ามมายัง ณ กังตั๋งหวังเกลี้ยกล่อมจิวยี่เข้าด้วยโจโฉ จิวยี่เห็นได้ทีจึงทำทีเชิญเจียวก้านกินโต๊ะแล้วเผลอหลับไป ฝ่ายเจียวก้านนอนไม่หลับลุกขึ้นมา พบจดหมายที่ชัวมอ เตียวอุ๋นส่งมาให้จิวยี่ที่จิวยี่ปลอมไว้ สำคัญว่าจริงก็รีบแอบนำจดหมายกลับมาให้โจโฉ

ฝ่ายโจโฉครั้นได้เปิดอ่านแล้ว มิรู้เท่าทันกลจิวยี่ จึงเรียกให้ชัวมอ เตียวอุ๋นไปประหารเสีย จิวยี่แจ้งดังนั้นในอุบายก็มีความยินดีสิ้นวิตก ฝ่ายขงเบ้งรู้เท่าทันกลจิวยี่ จิวยี่รู้ดังนั้นก็มีความริษยาขงเบ้งเป็นอันมาก คิดอุบายหาขงเบ้งเข้ามาแล้วว่าให้ช่วยทำเกาทัณฑ์สิบหมื่นดอกในสิบวัน ขงเบ้งรู้ดังนั้นก็แจ้งว่า จิวยี่ปราถนาจะหาความผิดใส่ตัวเสียจะได้ฆ่าเสีย จึงออกปากเพียงว่าจะได้ลูกเกาทัณฑ์ในสามวันเท่านั้น จิวยี่จึงนึกว่าขงเบ้งหลงในอุบายตัวเข้าแล้ว

ฝ่ายขงเบ้งนิ่งเสียสองวันครั้นวันที่สามจึงชวนโลซกลงเรือ แล้วพาเรือเล็กยี่สิบลำ ไปยังทัพโจโฉตอนดึก เรือแต่ละลำนั้นเต็มไปด้วยหุ่นฟางมัดสีดำเป็นอันมาก ขณะนั้นหมอกลงจัดฝ่ายโจโฉเห็นเรือแล่นเข้ามา ก็สำคัญว่าเป็นเรือข้าศึกก็ระดมยิงเกาทัณฑ์เข้าใส่เรือเป็นอันมาก มิเห็นว่าทหารมากแลน้อย ครั้นลูกเกาทัณฑ์เต็มฝั่งขงเบ้งก็ให้กลับแคมรับอีกฝั่งนึง จนเรือแต่ละลำเต็มไปด้วยเกาทัณฑ์จึงยกกลับ ได้เกาทัณฑ์ติดฟางมาเป็นอันมากนับได้เกินสิบหมื่น จิวยี่เห็นดังนั้นก็ทอดใจใหญ่แล้วว่า ขงเบ้งมีสติปัญญาลึกซึ้งยิ่งนัก

พอดีขงเบ้งเดินเข้ามา จิวยี่จึงว่าทัพโจโฉยกทัพมาขนาดนี้เห็นจะหักโหมเข้าไปก็จะขัดสน จึงว่าเรามีกลอุบายอยู่อันนึง ขงเบ้งจึงว่าให้เขียนกลอุบายลงฝ่ามือ ออกมาดูพร้อมกัน จิวยี่เห็นชอบ ครั้นเขียนเสร็จก็แบมืออกมาพบคำว่าเพลิงต้องกัน แล้วแต่ละคนก็หัวเราะ จิวยี่จึงว่าอย่าให้การนี้แพร่งพรายไป

สามก๊ก ตอนที่ 39 ซุนกวนตัดสินใจรบด้วยโจโฉ

สามก๊ก ตอนที่ 39 ซุนกวนตัดสินใจรบด้วยโจโฉ

ซุนกวนก็มีความวิตกนัก พอดีนางงอก๊กไถ่ผู้เป็นแม่น้าจึงว่า ตอนที่ผู้พี่เจ้าตายการข้างในให้ปรึกษาเตียวเจียว การข้างนอกให้ปรึกษาจิวยี่ ซุนกวนก็เพิ่งรำลึกถึงจิวยี่ได้ก็มีความยินดีจึงเรียกจิวยี่เข้าไปพบเพื่อ ปรึกษา

ฝ่ายจิวยี่เข้าพบขงเบ้งแลโลซก จิวยี่จึงว่าให้อ่อนน้อมด้วยโจโฉ ฝ่ายขงเบ้งจึงเข้ายุแหย่จิวยี่ให้สู้รบ โดยอ้างว่าโจโฉมากังตั๋งต้องการสองนางไปบำเรอ ชื่อว่า นางเสียวเกี้ยว กับนางไต้เกี้ยว จิวยี่ได้ฟังดังนั้นก็โกรธด้วยว่านางเสียวเกี้ยวเป็นภรรยาของตัวอยู่นั่นเอง แล้วเข้าพบซุนกวนเพื่อเสนอให้เข้าสู้โจโฉ ซุนกวนจึงตัดสินใจเด็ดขาดให้จิวยี่ถืออาญาสิทธิ์ทั้งปวงแล้วเข้ารบด้วยโจโฉ

ฝ่ายจิวยี่เห็นขงเบ้งหลักแหลมรู้น้ำใจคนจึงว่านานไปจะเป็นศัตรูต้องรีบกำจัดเสีย ครั้นอยู่มาเล่าปี่รู้ข่าวว่าซุนกวนตัดสินใจตีโจโฉจึงจัดแจงพลทหารสิ้นไป ตั้งอยู่ ณ เมืองแฮเค้า จิวยี่จึงแสร้งทำอุบายเชิญเล่าปี่มาปรึกษาราชการที่เมืองกังตั๋งหวังลอบฆ่า เสีย เล่าปี่จึงพากวนอูมาด้วย ทหารจิวยี่เห็นกวนอูจึงเกรงกลัวยิ่งนักมิอาจทำอันตรายเล่าปี่ได้ ฝ่ายขงเบ้งรู้ว่าเล่าปี่มายังกังตั๋งจึงเข้าพบแล้วว่า เดือนอ้ายแรมห้าค่ำให้จูล่งมารับ ณ ริมฝั่งแม่น้ำ แล้วเล่าปี่ก็ลากลับไป ณ เมืองแฮเค้า

สามก๊ก ตอนที่ 38 ขงเบ้งเจรจากับที่ปรึกษาซุนกวน

สามก๊ก ตอนที่ 38 ขงเบ้งเจรจากับที่ปรึกษาซุนกวน

ฝ่ายซุนกวนรู้ว่าโจโฉยกมาเป็นการเอิกเริกยิ่งนัก จึงให้โลซกไปสืบราชการ ณ เมืองเกงจิ๋ว ครั้นโลซกมาถึงก็เข้าแวะเยี่ยมเล่าปี่ ขงเบ้ง จึงได้สนทนากัน ฝ่ายขงเบ้งคิดยุให้โจโฉกับซุนกวนผิดใจกัน จึงลาเล่าปี่ไปเข้าพบซุนกวน ณ เมืองกังตั๋ง

ครั้นมาถึงเมืองกังตั๋งโลซกก็จัดหาที่อยู่ให้ขงเบ้ง แล้วตัวโลซกเข้าพบซุนกวน พบที่ปรึกษาแลนายทหารทั้งปวงเกี่ยงกันเป็นสามารถด้วยฝ่ายหนึ่งให้เข้าอ่อน น้อมด้วยโจโฉ อีกฝ่ายให้เข้าสู้รบเป็นสามารถ ฝ่ายซุนกวนด้วยเป็นคนเรรวนมิรู้จะทำประการใดจึงนิ่งอยู่ พอดีโลซกว่าขงเบ้งมา ณ เมืองกังตั๋ง ซุนกวนมีความยินดีจึงเชิญขงเบ้งเข้ามา

ครั้นขงเบ้งเข้ามาพบที่ปรึกษาซุนกวนหลายคน จึงเข้าสนทนาอยู่ ฝ่ายเตียวเจียว ยีหวน โปเจ๋า ซีหอง ลกเจ๊ก เหยียมจุ้น เทียตก ผู้สนับสนุนให้ซุนกวนเข้าอ่อนน้อมด้วยโจโฉ ปะทะคารมกับขงเบ้งเป็นอันมาก แลแต่ละคนมิสู้ปากขงเบ้งก็เลยนิ่งอยู่ ครั้นอุยกายพาขงเบ้งเข้าพบซุนกวน ขงเบ้งก็เข้ายุแหย่ซุนกวนให้สู้ด้วยโจโฉ ซุนกวนก็ยังเรรวนอยู่มิรู้ทำประการใด ด้วยฝ่ายขุนนางเข้าด้วยเตียวเจียวให้เข้าอ่อนน้อมแก่โจโฉ แลฝ่ายทหารเข้าด้วยโลซกแลขงเบ้งให้รบด้วยโจโฉ จึงมิรู้ทำประการใด

สามก๊ก ตอนที่ 37 จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า

สามก๊ก ตอนที่ 37 จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า

ครั้นโจโฉยกทัพมาถึงเมืองซงหยง เล่าจ๋องจึงออกมาคำนับ โจโฉจึงให้เล่าจ๋องไปอยู่เมืองเฉงจิ๋ว ให้ชัวมอ เตียวอุ๋นเป็นนายกองทัพเรือฝึกทหารทั้งปวง แล้วโจโฉจึงส่งอิกึ๋มไปฆ่าเล่าจ๋องกับชัวฮูหยินเสียระหว่างทาง ครั้นบำรุงไพร่พลทหารเสร็จแล้วจึงยกกองทัพหลวงต่อไปยัง ณ เมืองกังเหลง ฝ่ายเล่าปี่เร่งเดินทางอยู่ ขงเบ้งจึงออกไปตามกวนอู ณ เมืองกังแฮอีกคน

ครั้นประมาณสามยามเล่าปี่ได้ยินเสียงโห่ร้องอื้ออึงมา เล่าปี่ก็ตกใจยกทหารสองพันเข้ารบด้วยโจโฉเป็นสามารถ เตียวหุยเห็นดังนั้นก็เข้าช่วยหักไปช่วยเล่าปี่ ทหารโจโฉจึงรุกไล่ฆ่าฟันอาณาประชาราษฎร์หลบหนีวุ่นวาย การโกลาหลยิ่งนัก ครอบครัวเล่าปี่ถูกทหารไล่มาก็พลัดพรากกระจายไปกับชาวบ้าน เล่าปี่กับเตียวหุยก็ช่วยต้านทานเป็นสามารถ แต่มิอาจสู้ได้เหลือทหารแต่ร้อยหนึ่ง แลครอบครัวราษฎรบาดเจ็บล้มตายยิ่งนัก

เล่าปี่กับเตียวหุยหลบหนีผ่านสะพานเตียงปันเกี้ยวไป ตัวเตียวหุยก็วกกลับเข้ามายืนขี่ม้าถือทวนสกัด แต่เพียงผู้เดียว ทหารโจโฉสำคัญเป็นเตียวหุยก็เกิดกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ ฝ่ายจูล่งซึ่งเล่าปี่ให้คุมครอบครัวตัวอยู่นั้น ตะลุมบอนอยู่ในทัพโจโฉ ตีตลบกลับแล้วตีหักไปอีก ตามหาตัวอาเต๊าบุตรเล่าปี่แลกำฮูหยิน บิฮูหยินภรรยาเล่าปี่ก็มิพบ จนรุ่งสว่างจึงหักเข้าไปควานหาอีก พบชาวบ้านต้องอาวุธบาดเจ็บเป็นอันมาก แลเสียงร้องไห้อื้ออึงคะนึงไป พบนางกำฮูหยิน จึงพาออกมาถึงต้นสะพานแล้ววกกลับเข้าไปหาอีกเป็นหลายตลบ พบบิฮูหยินบาดเจ็บอุ้มอาเต๊าอยู่ จูล่งรีบเข้าไปแล้วชวนให้รีบหนี ฝ่ายนางบิฮูหยินรู้ว่าตัวบาดเจ็บจะเป็นตัวถ่วงจึงรั้นมิไป ฝากอาเต๊าให้จูล่ง แล้วตัวก็รีบกระโจนลงในบ่อที่อยู่ข้างๆตกลงไปตาย จูล่งเห็นดังนั้นจึงร้องไห้แลกลบปากบ่อเสียหวังมิให้ทหารโจโฉพบ แล้วถอดเกราะเอาอาเต๊าไว้ข้างใน รบฝ่าหนีทหารโจโฉออกมาแต่เพียงผู้เดียว ฝ่ายทหารโจโฉเข้าล้อมสกัดเป็นอันมาก จูล่งก็รบฝ่าออกมารบพุ่งกันอลหม่านฆ่าทหารเอกแลทหารเลวโจโฉมากมาย โลหิตนั้นติดกายแลเกราะเป็นอันมาก จูล่งก็ขับม้ารีบหนีไปถึงสะพานเตียงปันเกี้ยว ตัวจูล่งแลม้าที่ขี่ก็อ่อนแรงลง เตียวหุยจึงว่าเจ้ารีบขับม้าพาบุตรไปให้เล่าปี่เถิด จูล่งก็ขับฝ่าไป เตียวหุยเข้าสกัดแลเห็นสัปทนกั้นมาข้างหลังก็รู้ว่าโจโฉทัพหลวงมาถึงเอง จึงร้องตวาดด้วยเสียงอันดัง ทหารโจโฉก็กลัวมิกล้าเข้าใกล้ทั้งเกรงในกลขงเบ้ง แล้วเตียวหุยก็ให้ชักกระดานสะพานเสียพาทหารกลับมาหาเล่าปี่ แลโจโฉสำคัญในกลจึงให้ทำสะพานแล้วยกทหารตามไป

สามก๊ก ตอนที่ 36 โจโฉยาตราทัพลงใต้

สามก๊ก ตอนที่ 36 โจโฉยาตราทัพลงใต้

ฝ่ายเล่าเปียวป่วยหนักใกล้ตายเรียกเล่ากี๋เข้าพบแต่ถูกชัวมอห้ามไว้เล่ากี๋ มิรู้ทำอย่างไร จึงจำใจกลับไปเมืองกังแฮ อยู่มาเล่าเปียวโรคป่วยกำเริบจึงถึงแก่ความตาย จึงให้แต่งการศพตามประเพณี แล้วชัวมอก็ตั้งให้เล่าจ๋องเป็นเจ้าเมืองแทนบิดาต่อไป

อยู่มาโจโฉกะเกณท์ทหารเข้าถึงห้าสิบหมื่นยกลงใต้หวังตีแผ่นดินให้ราบคาบ เล่าจ๋องรู้ดังนั้นจึงตกใจ คิดอ่านยกเมืองเกงจิ๋วให้โจโฉ โจโฉแจ้งดังนั้นก็มีความยินดี

ฝ่ายเล่าปี่รู้ว่าเล่าเปียวตายแล้วจึงร้องไห้จนสลบ แล้วขงเบ้งคิดอ่านให้เล่าปี่ย้ายจากเมืองซินเอี๋ย ไปเมืองอ้วนเซีย เพื่อคิดอ่านป้องกันโจโฉแลเล่าปี่จึงชักชวนราษฎรประชาราษฎร์ให้ติดตามไปด้วย ฝ่ายโจหยิน เคาทูยกทัพเป็นกองหน้าเข้าเห็นเมืองซินเอี๋ยว่างอยู่จึงเข้าไปพัก ถูกกลขงเบ้งให้จูล่งเข้าเผาเมือง ทหารโจหยินเหยียบหนีตายกันอลหม่านหนีมาถึงริมฝั่งแม่น้ำ ถูกกวนอูซุ่มให้ทหารพังทำนบน้ำไหลบ่าลงมา ทหารโจหยินจมน้ำตายเป็นอันมาก เตียวหุยเข้าสกัดไว้อีกทัพโจหยินแตกหนีมิมีใจจะรบจึงหนีมาเข้ารวมกับโจโฉ

โจโฉรู้ดังนั้นก็โกรธให้ซีซีไปเกลี้ยกล่อมเล่าปี่ ณ เมืองอ้วนเซีย เล่าปี่มิยอมโจโฉจึงยาตราทัพ ไปเมืองอ้วนเซียหวังล้างเล่าปี่ให้สิ้น แลขงเบ้งเห็นว่าถ้าตั้งอยู่ที่เมืองอ้วนเสียนั้นมิได้จึงโยกย้ายไปเมืองซงหยง ราษฎรแลอาณาประชาราษฎร์ขอติดตามเล่าปี่ไปด้วย ชาวเมืองทั้งปวงก็ทิ้งบ้านเมืองเสียอพยพร้องไห้ตามเล่าปี่ เสียงนั้นอื้ออึงไป แลเล่าปี่ไปถึงเมืองซงหยงนั้นเข้าไม่ได้จึงไปยังเมืองกังเหลง

ฝ่ายโจโฉติดตามมาถึงเมืองอ้วนเซียใกล้จะทันอยู่แล้ว ขงเบ้งจึงให้กวนอูไปขอทหารจากเล่ากี๋ ณ เมืองกังแฮ ให้จูล่งคุมครอบครัว ตัวเล่าปี่ เตียวหุยคุมทหารไปป้องกันอยู่หลังทัพ แลเดินทางได้แต่วันละร้อยเส้น

สามก๊ก เล่ากี๋

สามก๊ก เล่ากี๋

เป็นบุตรของเล่าเปียว ที่เกิดจากนางต้านซี เล่ากี๋เป้นผู้ที่มีสติปัญญาปานกลาง(พอใช้ได้) แต่มีปัญหาทางดานสุขภาพอยู่เสมอๆ

เล่าเปียวคิดจะยกให้เป็นผู้ครองเมืองเกงจิ๋ว เนื่องจากเป็นบุตรคนโต แต่อำนาจทางทหารอยู่ในมือของฝ่ายนางชัวฮูหยินภรรยาอีกคน ซึ่งนางชัวฮูหยินต้องการให้เล่าจ๋องลูกชายของตนเองครองเมืองเกงจิ๋ว จึงจะหาโอกาสกำจัดเล่ากี๋อยู่เสมอๆ ในช่วงนั้นเล่าเปียวป่วยหนักอยู่ด้วย

เล่ากี๋รู้ว่าชัวฮูหยินวางแผนจะทำร้ายอยู่เสมอๆ แต่เล่ากี๋ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ จนวันนึงเล่ากี๋ที่กำลังมืดแปดด้านอยู่ ขงเบ้งกับเล่าปี่ก็มาหา เล่ากี๋จึงได้อ้อนวอนขอให้ขงเบ้งช่วย ซึ่งตอนแรกขงเบ้งก็ปฏิเสธ แต่เล่ากี๋สวมบทเล่าปี่ บีบน้ำตาจะเอากระบี่เชือดคอตาย จนขงเบ้งแนะนำให้เล่ากี๋ขอไปเป็นเจ้าเมืองกังแฮ เพื่อหนีภัย (แต่ความจริงขงเบ้งวางแผนจะยึดเกงจิ๋วอยู่แล้ว เลยให้เล่ากี๋ไปอยู่ที่อื่น เพื่อที่จะได้ตัดอำนาจ)

เมื่อเล่าเปียวตาย เล่ากี๋ได้มาเยี่ยม แต่ถูกชัวมอ ชัวฮูหยิน และเล่าจ๋องขัดขวางไม่ยอมให้เข้าพบ เล่ากี๋จึงต้องกลับไปเมืองกังแฮด้วยความชอกช้ำ

แต่ภายหลังโจโฉได้ยึดเมืองเกงจิ๋ว เล่าปี่และก๊วนพรรคประชาอุปถัมภ์ได้หนีโจโฉไปได้อย่างทุลักทุเล และก็ได้หนีไปอยู่กับเล่ากี๋ที่เมืองกังแฮ เมื่อชนะโจโฉในศึกเซ็กเพ็กแล้ว ขงเบ้งได้จัดการยึดเกงจิ๋วซะ ซุนกวนเคืองมาก ส่งทูตไปทวงคืน แต่เล่าปี่ก็ได้ให้เล่ากี๋ปกครองเกงจิ๋ว ทำให้ซุนกวนยังเข้าครองเกงจิ๋วไม่ได้ แต่วันๆเล่ากี๋ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากนอนอยู่บนเตียง เพราะ ปัญหาทางด้านสุขภาพ

หลังจากนั้นเล่ากี๋ก็สุขภาพทรุดโทรมด้วยปัญหาสุขภาพ อาการหนักเข้าๆ ก็ได้ป่วยตายในที่สุด เมื่ออายุได้เพียง20กว่าๆเท่านั้น

สามก๊ก ตอนที่ 35 เผาทุ่งพกบ๋อง

สามก๊ก ตอนที่ 35 เผาทุ่งพกบ๋อง

ฝ่ายเล่าเปียวคิดใช้ให้เล่าปี่ไปตีเมืองกังตั๋งหวังแก้แค้น ขงเบ้งคิดอ่านให้บ่ายเบี่ยงก่อน แลเล่าเปียวจะยกเมืองให้เล่าปี่ เล่าปี่ก็มิอาจรับ อยู่มาเล่ากี๋ผู้บุตรเล่าเปียวเข้าขอคำปรึกษาขงเบ้ง เรื่องกลัวอันตรายจากชัวฮูหยินกับชัวมอ ขงเบ้งจึงแนะนำให้เล่ากี๋ไปอยู่ ณ เมืองกังแฮ

ฝ่ายโจโฉได้สุมาอี้เป็นที่ปรึกษาคิดกำเริบหวังตีหัวเมืองชายทะเลสิ้น ส่งแฮหัวตุ้นกับทหารสิบหมื่นออกตีเล่าปี่ ณ เมืองซินเอี๋ย เล่าปี่กองกำลังน้อยกว่าขงเบ้งจึงให้ตั้งค่ายซุ่ม ณ ทุ่งพกบ๋องแลแฮหัวตุ้นประมาทมิฟังคำทัดทานของลิเตียน จึงถูกลอบวางเพลิงเสีย ทหารแฮหัวตุ้นวิ่งหนีแตกตื่นเหยียบตายกันเป็นอลหม่านบ้างหนีไม่ทันตายใน เพลิงเป็นอันมาก ด้วยสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าแขมไฟจึงลามไปทั่วกองทัพ ศพดาษดังขอนไม้ โลหิตแดงไปทั้งป่า ทหารสิบหมื่นตายสิ้น แฮหัวตุ้นเสียทีดังนั้นจึงทิ้งทหารหนีกลับเมืองฮูโต๋ แลฝีมือของขงเบ้งแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แต่นั้นมา เตียวหุย กวนอูกับนายทหารอื่นจึงเลื่อมใสขงเบ้งยิ่งนัก

สามก๊ก ตอนที่ 34 ซุนกวนคิดตีเล่าเปียว

สามก๊ก ตอนที่ 34 ซุนกวนคิดตีเล่าเปียว

อยู่มาฝ่ายซุนกวนเกลี้ยกล่อมผู้มีสติปัญญาเป็นอันมาก ซุนเซียงผู้น้องกับงอฮูหยินผู้เป็นมารดาถึงแก่ความตาย ซุนกวนจึงให้แต่งการศพไว้ แลได้ข่าวว่ากำเหลงหนีออกจากเล่าเปียวกับหองจอเข้ามาอยู่ด้วย ซุนกวนจึงรับไว้ กำเหลงเสนอให้ซุนกวนออกตีหองจอเจ้าเมืองกังแฮ กำเหลงอาสาออกตีด้วย เอาเกาทัณฑ์ยิงไปถูกหองจอตกม้าตาย แลซุนกวนจึงเอาศีรษะหองจอมาเซ่นไหว้บิดา ด้วยแต่ก่อนหองจอเป็นคนฆ่าซุนเกี๋ยนผู้บิดา ตอนรวมหัวเมืองเข้าสู้ตั๋งโต๊ะแล้วซุนกวนก็เลิกทัพกลับเข้าเมืองกังตั๋งด้วย เกรงเล่าเปียวจะวางกำลังไว้แน่นหนา

สามก๊ก ตอนที่ 33 เล่าปี่เยือนกระท่อมโงลังกั๋ง

สามก๊ก ตอนที่ 33 เล่าปี่เยือนกระท่อมโงลังกั๋ง

ฝ่ายโจหยินหนีไปพบโจโฉ รู้ว่าเล่าปี่ได้ชีซีเป็นที่ปรึกษาคิดดึงตัวมาอยู่ด้วยมิให้เล่าปี่คิดการ กำเริบ จึงเชิญมารดาชีซีมาเลี้ยงดูแล้วส่งจดหมายปลอมเป็นว่าให้เรียกตัวชีซีมาอยู่ ด้วยโจโฉ ด้วยชีซีเป็นคนกตัญญูจึงมิได้รู้เท่าทันจึงลาเล่าปี่ไปอยู่ ณ ฮูโต๋ แลก่อนไปนั้นเล่าปี่ร้องไห้รักเป็นอันมาก ชีซีจึงว่าใกล้ๆนี้มีผู้มีสติปัญญาอยู่ด้วยชื่อว่าฮกหลงหรือว่าขงเบ้ง เล่าปี่มีใจยินดีเป็นอันมาก ชีซีจึงลาไปแล้วรู้ว่าแม่ฆ่าตัวตายเนื่องจากตัวหลงเบาปัญญาซึ่งโจโฉ ต่อมาชีซีจึงมิมีใจอยู่ด้วยโจโฉโดยสุจริต

ฝ่ายเล่าปี่จึงพากวนอู เตียวหุย ไปเขาโงลังกั๋งเพื่อคำนับขงเบ้งครั้งแรกมิเจอพบแต่เพื่อนขงเบ้ง ต่อมาเล่าปี่รู้ข่าวว่าขงเบ้งกลับมาแล้วจึงไปเยือนอีกครั้งก็มิพบแต่ให้ เขียนจดหมายคำนับฝากไว้เพียงพบเพื่อนขงเบ้งคุยกัน ณ ร้านสุราเล่าปี่สำคัญผิดจึงเข้าไปคำนับ ครั้นรู้ว่ามิใช่จึงละอายยิ่งนัก

อยู่มาฤดูหนาวเล่าปี่จัดแจงไปคำนับอีกครั้งจึงพบ ขงเบ้งนอนอยู่จึงมิอาจปลุก ขงเบ้งแสร้งนอนถึงตะวันคล้อย จึงตื่นเข้าสนทนาด้วยเล่าปี่ทั้งบิดพริ้วอยู่ ขงเบ้งแจงให้เห็นว่า กำลังแผ่นดินจีนจะแบ่งออกเป็นสามก๊ก เล่าปี่ได้ฟังอย่างนั้นนึกเลื่อมใสแลว่าอย่าบิดพริ้วอยู่เลยไปทำราชการด้วย กันเถิด ขงเบ้งจึงปลงใจอยู่ด้วย จัดแจงร่ำลาจูกัดกิ๋นผู้น้องแล้วไปอยู่ด้วยเล่าปี่ ณ เมืองซินเอี๋ย เล่าปี่จึงให้เป็นที่ปรึกษากิจการทั้งปวง

สามก๊ก สุมา เต็กโช

สุมา เต็กโช
สุมา เต็กโช
สุมาเต็กโช (อังกฤษ: Sima Hui ; จีนตัวเต็ม: 司馬徽; จีนตัวย่อ: 司馬徽) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก นักปราชญ์เต๋าผู้ได้รับการนับถืออย่างมากของนักปราชญ์คนสำคัญ ๆ ในสามก๊กเช่นจูกัดเหลียง, ชีซีและบังทอง เป็นเพื่อนสนิทกับบังเต็กกง ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของบังทอง เป็นผู้ให้ฉายา "ฮองซู" แก่ บังทอง และ "ฮกหลง" แก่ ขงเบ้ง เป็นผู้ที่สามารถอ่านผู้คนและสถานการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ จนได้ฉายาว่า "ซินแสคันฉ่องวารี" อาศัยในเขตเมืองซงหยง เป็นปราชญ์ที่ยึดติดกับธรรมชาติ ไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง

สุมาเต็กโช ปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อเล่าปี่โผนม้าเต็กเลาหนีการตามล่าของชัวมอและเตียวอุ๋น ลูกน้องของเล่าเปียวจากเมืองเกงจิ๋ว ระหว่างที่เดินทางหนี เล่าปี่ได้พบเห็นวิถีชีวิตชาวนาธรรมดา ๆ เล่าปี่จึงถอดถอนหายใจว่า เหตุใดเราจึงไม่มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายเช่นคนเหล่านี้ ขณะนั้นมีเด็กชายคนหนึ่งเป่าขลุ่ยขี่ควายผ่านมา เด็กคนนั้นทักเล่าปี่ว่า ท่านใช่เล่าปี่หรือไม่ จนเล่าปี่รู้สึกประหลาดใจว่า เหตุใดเด็กธรรมดา ๆ คนหนึ่งถึงรู้จักตน เด็กชายขี่ควายจึงบอกว่า อาจารย์ของตนคือ ท่านสุมาเต็กโช บอกว่า ผู้ที่ขี่ม้าสีขาวผ่านมาคือ เล่าปี่และอีกไม่นานจะต้องผ่านมาทางนี้ จึงให้ข้าพเจ้าออกมาต้อนรับ

เมื่อเล่าปี่ได้พบกับสุมาเต็กโช ในกระท่อม สุมาเต็กโชแกล้งแหย่ถามเล่าปี่ว่า ท่านก็ทรงคุณธรรม เหตุใดถึงยังตั้งตัวไม่ได้ เล่าปี่ตอบว่า เพราะไม่มีเมืองอาศัยเป็นของตนเอง สุมาเต็กโชจึงว่า ที่ท่านยังไม่มีเมือง ไม่อาจตั้งตนได้ เห็นเป็นเพราะยังไม่มีที่ปรึกษาคอยให้คำแนะนำมากกว่า เล่าปี่ตอบว่า ก็ข้าพเจ้ามีซุนเขียนและบิต๊กอยู่แล้ว แต่สุมาเต็กโชแย้งว่า ซุนเขียนและบิต๊กเป็นเพียงบัณฑิตผู้รู้หนังสือธรรมดา ๆ ยังไม่อาจเป็นปราชญ์ผู้พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้ เล่าปี่จึงสำนึกขึ้นได้และถามสุมาเต็กโชว่า แล้วจะหาปราชญ์ที่ปรึกษาได้ที่ใด สุมาเต็กโชตอบว่า ในแผ่นดินขณะนี้มีเพียงปราชญ์ 2 คนเท่านั้นที่จะช่วยท่านพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้ เมื่อเล่าปี่ถามว่าใคร สุมาเต็กโชหัวเราะไม่ตอบ แต่เทน้ำจากกาเขียนตัวอักษรลงบนโต๊ะ คำว่า "ฮงหลง" กับ "ฮองซู" พอให้เล่าปี่เห็น แล้วลบออก

หลังจากที่ชีซีจากเล่าปี่ไปแล้ว และแนะนำขงเบ้งให้เล่าปี่ พร้อมเฉลยปริศนาของคำว่า ฮกหลง ฮองซู แก่เล่าปี่แล้ว สุมาเต็กโชแวะมาหาเล่าปี่ และถามถึงชีซี เล่าปี่เล่าว่า ชีซีต้องไปอยู่กับโจโฉ เพราะแม่ของชีซีถูกบังคับจากโจโฉ สุมาเต็กโชอุทานว่า ชีซีโดนหลอกเข้าให้แล้ว นี่เป็นอุบายของโจโฉ ถ้าชีซีไม่ไปแม่เขาจะไม่ตาย แต่ถ้าชีซีไปแม่เขาต้องตายแน่นอน เพราะนางนั้นเกลียดโจโฉมาก เมื่อรู้ว่าลูกชายตนต้องอุบายโจโฉ นางจะเกิดความอับอายจนฆ่าตัวตาย พร้อมกับอุทานว่า "เสียดายที่ชีซีไม่ได้นายที่ดี น่าเสียดาย...น่าเสียดาย" ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามคำที่สุมาเต็กโชกล่าวทุกประการ

สามก๊ก ตอนที่ 32 เล่าปี่ได้ชีซีเป็นที่ปรึกษา

สามก๊ก ตอนที่ 32 เล่าปี่ได้ชีซีเป็นที่ปรึกษา

เล่าปี่หนีมาพอเวลาเพลาพบเด็กเลี้ยงควายทักว่าเล่าปี่ เล่าปี่นึกสงสัยว่ารู้จักได้อย่างไร เด็กเลี้ยงควายจึงพาไปพบอาจารย์สุมาเต็กโช ครั้นสนทนากัน สุมาเต็กโชว่าผู้มีสติปัญญามิสู้ไกลนัก อันฮกหลงกับฮองซูหากได้มาแต่ผู้หนึ่งก็สามารถครองแผ่นดินได้ เล่าปี่ได้ครุ่นคิดนัก รุ่งเช้าจูล่งเที่ยวตามหาจนพบ เล่าปี่จึงคำนับสุมาเต็กโชลาออกมา พบซีซีเดินทำเพลงด้วยถ้อยคำแยบคาย เล่าปี่กริ่งใจว่าเป็นผู้มีสติปัญญา จึงเข้าสนทนาด้วยรู้ว่าเป็นชีซีจึงเชื้อเชิญเข้ามาทำการด้วยให้คุมบังคับ บัญชาทหารทั้งปวง

อยู่มาโจหยิน ลิเตียนซึ่งอยู่ ณ เมืองห้วนเสียรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่เมืองซินเอี๋ยจึงเข้ารบด้วย ชีซีเสนอแผนการให้จูล่งเข้าแก้กระบวนพยุหะแปดกุญแจทองของโจหยินแลให้กวนอู อ้อมเข้าตีเมืองห้วนเสีย โจหยิน ลิเตียนสู้มิได้จึงถอยหนีไปเมืองฮูโต๋ ครั้นเล่าปี่ได้เมืองห้วนเสียแล้วได้เล่าฮองเป็นบุตรบุญธรรม ให้จูล่งอยู่รักษาเมือง ตัวเล่าปี่ ชีซี กวนอู เตียวหุย กลับไปเมืองซินเอี๋ย

วันเสาร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2555

สามก๊ก ตอนที่ 31 สมภพอาเต๊า

สามก๊ก ตอนที่ 31 สมภพอาเต๊า

ฝ่ายเล่าปี่ครั้นมาอยู่กับเล่าเปียวเวลาล่วงมานาน นางกำฮูหยินภรรยาเล่าปี่ได้ให้กำเนิดบุตรชาย ให้ชื่อว่าอาเต๊าแลเล่าเปียวให้เล่าปี่ไปอยู่ ณ เมืองซินเอี๋ย แต่ตัวเล่าเปียวยังเรียกเล่าปี่มาปรึกษาราชการอยู่เนืองๆ อยู่มาเล่าเปียวเชิญเล่าปี่มาปรึกษาเรื่องการยกตำแหน่งเจ้าเมืองเกงจื๋วให้ บุตรทั้งสอง เล่าปี่เสนอให้ยกให้เล่ากี๋ด้วยว่าเป็นบุตรคนโต ชัวฮูหยินกับชัวมอผู้ซึ่งคิดให้เล่าจ๋องขึ้นครองอำนาจคิดแค้นเล่าปี่เป็นอัน มาก จึงคิดแผนเชิญเล่าปี่เป็นเจ้าภาพแทนเล่าเปียวรับคำนับหัวเมืองในวันปีใหม่ พยายามลอบฆ่าแต่มิสำเร็จ เล่าปี่หนีออกทางประตูเมืองทางด้านตะวันตกแลพลัดหลงมิรู้ไปทางใดหนีมาถึงแดน เมืองลำเจี๋ยง

สามก๊ก ตอนที่ 30 โจโฉปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันออก

สามก๊ก ตอนที่ 30 โจโฉปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันออก

ต่อมาอ้วนถำ อ้วนซงจึงรบแก่งแย่งชิงดีกันเป็นสามารถ อ้วนถำสู้มิได้ขอเข้าอยู่ด้วยโจโฉ โจโฉเห็นได้ที จึงยกทัพขึ้นเหนือมาลอบตีค่ายอ้วนซงแตก ตีได้เมืองกีจิ๋ว อ้วนถำกลับเข้ารบด้วยโจโฉกลับถูกโจหองแทงตกม้าตาย โจโฉจึงยกไปตีโกกันต่อ อ๋องต๋ำทหารโกกันลอบฆ่าโกกันเสียตัดศีรษะไปให้โจโฉ โจโฉมีความยินดีจึงล่วงไปตีอ้วนซง อ้วนฮีแลกุยแกนั้นป่วยหนักนอนมาบนเกวียน โจโฉจึงล่วงไปตีหัวเมืองฝ่ายตะวันตกก่อน ครั้นพอกลับมารู้ว่ากุยแกตายแล้ว ก็ร้องไห้รักเป็นมากว่ากุยแกอายุน้อยกว่าอีกหน่อยจะฝากฝังบ้านเมืองให้ดูแล แลมาตายนี้มิควรเลย อุปมาเหมือนเทพดามาทำลายชีวิตเราเสียแล้วจุดเทียนเซ่นศพกุยแกร้องไห้รัก

แลก่อนตายนั้นกุยแกแต่งหนังสือเสนอมิให้ตามอ้วนซง อ้วนฮีที่ไปอาศัยอยู่กับกองซุนของ กองซุนของคอยท่าโจโฉเกรงว่าจะรบมาตีจึงเลี้ยงดูอ้วนซง อ้วนฮีไว้เป็นทหาร พอเห็นว่าโจโฉมิได้ตามตีจึงฆ่าอ้วนซง อ้วนฮีตัดศีรษะไปให้โจโฉเอาความชอบ โจโฉจึงปราบปรามหัวเมืองฝ่ายตะวันออกราบคาบแต่นั้นมาแล้วยกทัพกลับฮูโต๋

ต่อมาโจโฉพบนกยูงทองแดงเปล่งประกายอยู่ โจโฉจึงเกณฑ์ชาวเมืองก่อสร้างปราสาทสูงใหญ่ริมแม่น้ำเจียงโห เอานกยูงไว้บนปราสาท หนึ่งปีจึงเสร็จสิ้น ให้ชื่อว่าปราสาทนกยูงสัมฤทธ์ กะเกณท์ได้ทหารอ้วนเสี้ยว มาห้าสิบหมื่นแลทหารเอกเป็นจำนวนมากบำรุงทแกล้วทหารอยู่

สามก๊ก ตอนที่ 29 อ้วนเสี้ยวตาย

สามก๊ก ตอนที่ 29 อ้วนเสี้ยวตาย

ขณะนั้นพระเจ้าเหี้ยนเต้เสด็จมาอยู่ ณ ฮูโต๋ได้แปดปี อ้วนเสี้ยวตั้งมั่นอยู่ที่เมืองกิจิ๋ว โจโฉจึงนำกำลัง ออกตีอ้วนเสี้ยวอีกครั้ง อ้วนซงผู้บุตรอาสาออกตีโจโฉแต่กลับพ่ายแพ้กลับมา อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นเป็นกังวล โรคป่วยเก่าจึงกำเริบขึ้นมาเจรจาไม่ออก ว่าให้อ้วนซงปกครองเมืองต่อแลพอลมปะทะเข้ามาก็ขาดใจตาย

ต่อมาอ้วนซงผู้น้องอ้วนถำจึงขึ้นครองเมืองกิจิ๋วแทนบิดา ฝ่ายอ้วนถำผู้พี่คิดน้อยใจด้วยเป็นบุตรคนโต จึงคิดแย่งชิงอำนาจจากอ้วนซง พอดีโจโฉยกทัพเข้ามาอ้วนถำจึงเข้ารบด้วย อ้วนซง อ้วนฮี โกกัน จึงเข้าช่วยรบโจโฉ โจโฉแบ่งกองกำลังตีพร้อมกันทั้งสี่ค่าย ฝ่ายอ้วนถำ อ้วนซง อ้วนฮี โกกันสู้มิได้จึงถอยร่นมา โจโฉคิดตีตาม กุยแกที่ปรึกษาจึงว่าหากตีตามบุตรอ้วนเสี้ยวทั้งสามจะสมัครสามัคคีกัน ควรที่จะกลับเมือง รอดูให้บุตรทั้งสามแก่งแย่งชิงเมืองกันเอาเองจึงจะรบได้โดยง่าย โจโฉเห็นชอบด้วย

สามก๊ก ตอนที่ 28 เล่าปี่ขออาศัยเล่าเปียว

สามก๊ก ตอนที่ 28 เล่าปี่ขออาศัยเล่าเปียว

ฝ่ายอ้วนเสี้ยวเมื่อแตกไปกลับมารวบรวมทหารกลับไปเมืองกิจิ๋วสติฟั่นเฟือนไป พอดีอ้วนถัน อ้วนฮีผู้บุตร โกกันผู้หลานคุมทัพมาช่วย อ้วนเสี้ยวมีความยินดีนำทหารสิบหมื่นเศษออกรบโจโฉอีกไป ตั้งมั่น ณ ตำบลซองเต๋ง โจโฉยกทัพตามออกไปพบทัพอ้วนเสี้ยวจึงรบกันเป็นสามารถ อ้วนเสี้ยวสู้มิได้หลบหนีกลับเข้าเมืองอีก แลตัวนั้นป่วยมิออกว่าราชการให้อ้วนซงผู้บุตรออกว่าราชการแทน

ฝ่ายเล่าปี่นำทหารห้าหมื่นยกทัพมาจะตลบตีฮูโต๋ โจโฉจึงออกรบพุ่งด้วยเล่าปี่แลตั้งค่ายมั่นไว้หลอกเล่าปี่ แล้วแบ่งกำลังไปตีเสบียงเล่าปี่ แลตีเมืองยีหลำ เล่าปี่รู้ดังนั้นก็ตกใจให้เตียวหุยไปช่วยแก้เสบียง กวนอูไปช่วยครอบครัว ณ เมืองยีหลำ แล้วเตรียมถอยค่ายเสีย ฝ่ายโจโฉให้คนมาดักรอ เล่าปี่กับจูล่งจึงช่วยกันรบเป็นสามารถ เล่าปี่เห็นจวนตัวจึงหนีออกมาตัวคนเดียวพบเตียวคับมาสกัดอยู่ เล่าปี่คิดท้อใจฆ่าตัวตาย พอดีจูล่งนำทหารเข้ามาช่วยแก้ไปได้ กวนอูก็พาเตียวหุยกลับมาหาเล่าปี่แล้วหนีมา คิดไปเข้าอาศัยด้วยเล่าเปียว เจ้าเมืองเกงจิ๋ว ฝ่ายเล่าเปียวมีใจยินดีรับไว้ ฝ่ายโจโฉก็ยกทัพกลับไปเมือง

ประวัติสามก๊ก ลิเตียน

ประวัติสามก๊ก ลิเตียน
ประวัติสามก๊ก ลิเตียน
ประวัติสามก๊ก ลิเตียน


ลิเตียน (Li Dian) เป็นขุนพลคนสำคัญของโจโฉและเป็นหนึ่งขุนพลกลุ่มแรกของโจโฉ (อันได้แก่ โจหยิน โจหอง แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน ลิเตียน งักจิ้น) เข้าด้วยกับโจโฉตั้งแต่โจโฉประกาศเรียกคนอาสาสมัครไปปราบตั๋งโต๊ะ เป็นคนสุภาพอ่อนโยน มีความรู้ทั้งด้านการทหารและการปกครอง ได้ออกศึกเสมอ และได้ยศทหารเป็นพ้อหลู่เจียงจวิน สิ้นชีพเมื่ออายุ 36 ปี ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหมิ่นโหว (พระยา)

สามก๊ก ตอนที่ 27 ศึกประวัติศาสตร์

สามก๊ก ตอนที่ 27 ศึกประวัติศาสตร์



ฝ่ายอ้วนเสี้ยวกะเกณท์ทหารในเมืองกิจิ๋ว อิวจิ๋ว เซียงจิ๋ว เป๊งจิ๋ว ได้เจ็ดสิบหมื่นยกทัพไปตีฮูโต๋ แฮหัวตุ้นซึ่งรักษาอยู่ตำบลกัวต๋อแจ้งไปยังโจโฉ โจโฉจึงเกณท์ทหารเจ็ดหมื่นห้าพันไปบรรจบกับแฮหัวตุ้น ตั้งคอยทัพอยู่ตำบลแม่น้ำฮองโห

อ้วนเสี้ยวตั้งประชิดค่ายโจโฉเผชิญหน้ากับอ้วนเสี้ยวต่อสู้ออกรบกันอย่างยืด เยื้อ ทหารโจโฉน้อยกว่าเก้าส่วนสิบส่วน ตั้งสกัดทัพต้านอ้วนเสี้ยวอยู่ โจโฉนับวันจะตกที่นั่งลำบากเสบียงอาหารไม่พอ จึงคิดจะยกกลับฮูโต๋ ซุนฮกซึ่งรักษาเมืองฮูโต๋จึงส่งจดหมายตอบไปว่าฝ่ายอ้วนเสี้ยวขาดแม่ทัพสองคน แลถึงจะมีทหารมากแต่ขาดความชำนาญให้รีบรุดเอาชัยเสีย โจโฉเห็นด้วย ต่อมาได้ข่าวว่าอ้วนเสี้ยวกำลังลำเลียงเสบียงมายัง ณ กัวต๋อจึงส่งคนไปตีเผาเสบียงเสีย กองทัพอ้วนเสี้ยวจึงขาดแคลนเสบียงลงจึงเรียกเสบียงจากตำบลอัวเจ๋า แลที่เก็บเสบียงของอ้วนเสี้ยว ณ ตำบลกัวเจ๋านี้ มีอิเขงดูแลอยู่ แลอิเขงนั้นเสพสุราทุกวันมิได้ขาดไม่สนใจการดูแลเสบียง อยู่มาเขาฮิวที่ปรึกษาอ้วนเสี้ยวน้อยใจหนีออกไปสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ เขาฮิวกับโจโฉนี้เป็นเพื่อนกันมาก่อน โจโฉจึงออกรับขับสู้อย่างดี เขาฮิวเสนอแผนการปล้นเผาเสบียง ณ ตำบลกัวเจ๋าตัดกำลังเสบียงอ้วนเสี้ยวเสีย โจโฉจึงแต่งทหารปลอมเป็นทหารอ้วนเสี้ยวลอบตีอัวเจ๋าแล้วเข้าโจมตีจุดไฟเผา ทันที เผายุ้งฉางเสบียงได้หมด อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นจึงตกใจสั่งเตียวคับ โกลำออกลอบตีค่ายโจโฉแทน โจหอง แฮหัวตุ้น แฮหัวเอี๋ยน โจหยิน ลิเตียนออกรบเป็นสามารถ เตียวคับ โกลำสู้ไม่ได้ถอยร่นลงมา

สามก๊ก ตอนที่ 26 ซุนกวนขึ้นครองฝั่งกังตั๋ง

 สามก๊ก ตอนที่ 26 ซุนกวนขึ้นครองฝั่งกังตั๋ง

ฝ่ายซุนเซ็กตั้งแต่เป็นใหญ่ ณ ฝั่งกังตั๋ง ทำการหยาบช้าฆ่าเค้าก๋องเมืองง่อกุ๋นเสีย ทหารเค้าก๋องคิดแค้นจึงลอบฆ่าซุนเซ็กได้รับบาดเจ็บเป็นหลายแห่ง หมอฮัวโต๋เข้าทำการรักษาจนหาย แลด้วยบาดแผลมีพิษจึงห้ามซุนเซ็กอารมณ์ร้อนเสียร้อยวัน ด้วยซุนเซ็กเป็นคนด่วนใจเร็วเห็นอิเกียดที่ได้อ้างตนว่า เป็นผู้วิเศษรักษาคนอยู่ ณ แดนกังตั๋ง ผู้คนนับถือเป็นอันมากนึกอิจฉาจึงจับมาฆ่าเสีย ต่อมาซุนเซ็กจึงได้เห็นแต่ภาพหลอนอิเกียดมาหลอกหลอน ไม่เว้นแต่ละวันจนคลุ้มคลั่งด้วยพิษกำเริบร่างกายทรุดโทรม เห็นว่าตัวจะมิรอดจึงเรียกซุนกวนผู้น้องยกตำแหน่งบ้านเมืองให้ทำนุบำรุงต่อ ไป อันการข้างในให้ปรึกษาเตียวเจียว การสงครามให้ปรึกษาจิวยี่ สั่งเสร็จแล้วก็สิ้นใจ ซุนกวนจึงออกว่าราชการแทนซุนเซ็กแต่นั้นมา

ตั้งแต่ซุนกวนครองตำแหน่งแทนซุนเซ็กก็เชื้อเชิญเกลี้ยกล่อม โลซก จูกัดกิ๋น แลผู้มีสติปัญญาเป็นอันมาก มาช่วยว่าราชการ แลส่งหนังสือเข้าด้วยโจโฉ โจโฉจึงแต่งตั้งซุนกวนเป็นเจ้าเมืองกังตั๋ง แต่นั้นมา บรรดาราษฎรทั้งปวงแลเมืองขึ้น ก็มีใจยินดีต่อซุนกวนเป็นอันมาก

วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2555

สามก๊ก ตอนที่ 25 สามพี่น้องได้พบพาน

สามก๊ก ตอนที่ 25 สามพี่น้องได้พบพาน

ฝ่ายกวนอูกับพี่สะใภ้เดินทางมาได้จิวฉองมาเป็นพวก พบเตียวหุยที่เขาบองเอี๋ยงสันจึงเข้าไปหา เตียวหุยเข้าห้ามไว้ด้วยเข้าใจผิดว่ากวนอูเป็นพวกโจโฉแล้ว เข้ารบกันเป็นสามารถ พอดีทหารโจโฉที่คิดแค้นไล่ตามมา กวนอูจึงวกกลับไปตัดศีรษะมาให้เตียวหุยดูว่ามิใช่เป็นพวกเดียวกับโจโฉ เตียวหุยจึงโผเข้าคำนับกวนอูว่าตัวนั้นใจเบาผิดนัก แลพี่น้องทั้งสองจึงร้องไห้รักกัน

อยู่มากวนอูเดินทางรั้งรอให้ซุนเขียนไปแจ้งเล่าปี่ให้หนีออกมาจากอ้วนเสี้ยว แลพักที่กระท่อมแห่งหนึ่ง นายบ้านยกกวนเป๋งบุตรชายตนให้เป็นบุตรบุญธรรมกวนอู ฝ่ายเล่าปี่แสร้งออกอุบายแก่อ้วนเสี้ยวว่าจะไปเกลี้ยกล่อมเล่าเปียว ณ เมืองเกงจิ๋ว อ้วนเสี้ยวไม่รู้กลอุบายเห็นชอบด้วย

ฝ่ายเล่าปี่หนีออกมาพบกวนอูดีใจยิ่ง พบจูล่งเที่ยวเป็นโจรอยู่ในป่า เล่าปี่จึงว่าครั้นจูล่งอยู่กับกองซุนจ้าน ยังหาบุญไม่จึงมิได้มาอยู่ร่วมคิดกัน บัดนี้มีบุญวาสนายิ่ง จูล่งจึงว่าตั้งแต่มาทุกเมืองยังมิหาคนโอบอ้อมอารีเท่าเล่าปี่ จึงขออยู่รับใช้ด้วยเล่าปี่ เล่าปี่มีความยินดียิ่ง

ทั้งสามพี่น้องจึงได้มาพบพานพร้อมหน้ากันอีกครั้งแลไปตั้งซ่องสุมคน ณ เมืองยีหลำ ฝ่ายอ้วนเสี้ยวรู้เข้าก็โกรธจะยกไปตีเล่าปี่ ที่ปรึกษาจึงว่าเห็นว่าเล่าปี่ทหารน้อยจะยกไปทำการเมื่อไรก็ได้ บัดนี้วิตกอยู่แต่โจโฉให้รีบกำจัดเสีย อ้วนเสี้ยวเห็นชอบด้วย

สามก๊ก ตอนที่ 24 กวนอูหักด่านโจโฉ

สามก๊ก ตอนที่ 24 กวนอูหักด่านโจโฉ

ฝ่ายโจโฉคิดทำการหน่วงเหนี่ยวกวนอูไว้มิยอมให้กวนอูร่ำลาแต่มิสำเร็จ นึกเสียใจยิ่งนักด้วยเลี้ยงดูไว้มิได้ ที่ปรึกษาแลนายทหารแนะนำโจโฉให้กำจัดเสีย มิเช่นนั้นจะเป็นเสี้ยนหนามต่อไปภายภาคหน้า โจโฉจึงว่ากวนอูมีใจกตัญญูต่อเล่าปี่แลให้สัตย์สัญญาไว้ ครั้นจะให้จับตัวมาก็เสียวาจาไปจึงออกมาส่งกวนอูถึงกลางทาง แลสรรเสริญกวนอูยิ่งนักทั้งมอบเสื้อผ้าให้แก่กวนอู ครั้นกวนอูออกมาถึงด่านกลางทางเจอนายด่านสกัดไว้ไม่ให้ผ่าน เรียกหาใบเบิกทาง กวนอูว่าไม่มีจึงเข้ารบพุ่งด้วยฆ่านายด่านเสียหลายคนหักเสียห้าด่านหนีออกมา ได้ พบแฮหัวตุ้นเข้าสกัดทัพอยู่จึงได้รบพุ่งกันเป็นสามารถ พอดีเตียวเลี้ยวนำใบเบิกทางแลคำสั่งโจโฉมาห้ามไว้ แฮหัวตุ้นจึงหยุดรบกับกวนอู แล้วเตียวเลี้ยว แฮหัวตุ้น จึงปล่อยกวนอูเดินทางไปหาเล่าปี่ต่อไป

กระบี่อี้เทียน

กระบี่อี้เทียน
กระบี่อี้เทียน
กระบี่อี้เทียน
กระบี่อี้เทียนเกี้ยม ( Yi-Tian Sword / Trust in God / Trust in Heaven / Heavenly Sword ) เดิมทีตัวโจโฉ ได้ครองกระบี่วิเศษสองเล่ม คือ “กระบี่อี้เทียนเกี้ยม” หรือกระบี่เอกในใต้หล้า และ “กระบี่กีเทนเกี้ยม” หรือกระบี่สายรุ้งมรกต ซึ่งกระบี่ชิงกังนั้น โจโฉได้มอบให้แฮหัวอิ๋น ส่วนกระบี่อี้เทียนเกี้ยมเป็นกระบี่วิเศษที่โจโฉไม่ได้มอบให้ใคร และนำติดตัวไว้ตลอดเวลา กระบี่เจ็ดดาว และกระบี่อี้เทียนเกี้ยมนั้น รู้ว่าเป็นของสำคัญ แต่บทบาทในเรื่องสามก๊กนั้นมีน้อย แต่กระบี่กีเทนเกี้ยมหรือชิ่งกัง มีบทบาทมากเพราะจูล่งได้นำไปใช้หลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งเชื่อว่าถูกนำไปมอบให้เล่าปี่ และต่อมาเล่าปี่ใช้กระบี่เล่มนี้ฟันหินเสี่ยงทายกับซุนกวน ผลก็คือฟันหินแตกตามคุณสมบัติฟันเหล็กดุจฟันหยวกของมัน ก็เลยไม่รู้ว่าจะเสี่ยงทายไปทำไมให้เสียเวลา เสียหิน

กระบี่ชิงกัง

กระบี่ชิงกัง
กระบี่ชิงกัง
กระบี่ชิงกัง
กระบี่กีเทนเกี้ยม (กระบี่แชฮ้งเกี้ยม / กระบี่สายรุ้งมรกต / กระบี่ชิ่งกัง / Luminous Blade / Blue Blade / Qinggang Sword / Black Pommel ) เดิมทีเป็นกระบี่ของโจโฉ แต่โจโฉมอบให้ แฮหัวอิ๋น ผู้เป็นญาติสนิทใช้ประจำตัว กระบี่เล่มนี้นับเป็นกระบี่วิเศษเล่มหนึ่งของแผ่นดิน มีอานุภาพร้ายแรง ยามกรีดกรายกระบี่แทบจะไร้เสียง มีความคมสามารถตัดเหล็กได้ดุจดังหยวกต่อมากระบี่เล่มนี้ได้ตกเป็นของจูล่ง ซึ่งได้จากศพของแฮหัวอิ๋น หลังจากประมือกันแล้ว ที่ทุ่งเตงยางเมื่อครั้งที่จูล่งจะไปช่วยนางบิฮูหยินและอาเต๊า

กระบี่เจ็ดดาวแห่งสามก๊ก

กระบี่เจ็ดดาว
กระบี่เจ็ดดาว ( Seven Gem Sword / Seven Star Sword ) เป็นกระบี่สั้นล้ำค่าประดับด้วยอัญมณี 7 สี เดิมทีเป็นของ อ้องอุ้น ซึ่งได้มอบให้กับ โจโฉ เพื่อนำไปลอบสังหารตั๋งโต๊ะ ในขณะที่ตั๋งโต๊ะกำลังนอนดูหนังสืออยู่ แต่ตั๋งโต๊ะแลเห็นเงาในกระจกเสียก่อน แผนการจึงไม่สำเร็จ แต่โจโฉก็เอาตัวรอดมาได้ โดยทำทีเป็นว่ากำลังจะนำกระบี่ล้ำค่านี้มามอบให้ตั๋งโต๊ะ

ม้าเซ็กเธาว์

เซ็กเธาว์ (Red Hare, พินอิน: Chìtù mǎ) คือสุดยอดอาชาแห่งยุคสามก๊ก

"มีสำนวนในสามก๊กว่ายอดคนต้องลิโป้ ยอดม้าต้องเซ็กเธาว์"


ม้า เซ็กเธาว์
ม้า เซ็กเธาว์
จัดเป็นม้าโลหิตประเภทหนึ่งได้เพราะขนตามลำตัวมีสีแดงเหมือนโลหิต(หรือสีแดงราวถ่านเพลิง)นิยายบางเล่มเรียก ม้ากระต่ายแดง (เนื่องจากฝีเท้าปราดเปรียวเหมือนกระต่าย) ในเนื้อเรื่องของสามก๊กยังกล่าวไว้อีกว่าม้าตัวนี้วิ่งได้วันละพันลี้หรือ 480 กิโลเมตรเสียงของมันดังกึกก้องกัมปนาทสะท้านฟ้าสะท้านดินเดิมทีเป็นม้าของตั๋งโต๊ะ ซึ่งต่อมาได้มอบให้กับลิโป้ พร้อมกับเครื่องบรรณาการมากมายเพื่อให้ลิโป้ทรยศพ่อบุญธรรม คือเจ๊งหงวน ฝ่ายลิโป้เห็นแก่ลาภยศจึงได้บุกลอบเข้าไปฆ่าพ่อบุญธรรมของตนจนตายเสีย และจึงเข้าร่วมกับตั๋งโต๊ะในที่สุด

ต่อมาหลังจาก ลิโป้ถูกโจโฉประหารที่เมืองเสียวพ่ายม้าเซ็กเธาว์ ก็ตกไปเป็นของโจโฉจนกระทั่ง เมื่อกวนอูมาอยู่กับโจโฉระยะนึงโจโฉต้องการมัดใจกวนอูและมอบเครื่องบรรณาการมากมายให้รวมทั้งม้าเซ็กเธาว์ด้วย ภายหลังเมื่อกวนอูถูกจับตัวโดยลิบองและลกซุน เซ็กเธาว์ก็ตกเป็นของซุนกวน แต่ในที่สุดเมื่อกวนอูถูกประหาร ม้าเซ็กเธาว์ก็ไม่ยอมกินอะไรและอดตายในที่สุด ม้าเซ็กเธาว์ แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่ชื่อม้าแต่เป็นชื่อสายพันธุ์ม้า เชื่อว่ามีถิ่นกำเนิดแถบตะวันออกกลาง

สามก๊ก ตอนที่ 23 กวนอูฆ่างันเหลียง บุนทิว

สามก๊ก ตอนที่ 23 กวนอูฆ่างันเหลียง บุนทิว

อยู่มาอ้วนเสี้ยวเชื่อคำยุยงของเล่าปี่ที่ไปอยู่ด้วยให้ออกตีโจโฉ อ้วนเสี้ยวจึงสั่งงันเหลียงทหารเอกยกทัพออกตี เป็นทัพหน้าก่อนเข้าทางด่านแปะแบ๊ กวนอูอาสาออกตี เอาง้าวฟันงันเหลียงคอขาดตาย อ้วนเสี้ยวจึงส่งบุนทิวออกรบอีก กวนอูก็ฆ่าบุนทิวตายเสียอีกคน อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นก็โกรธก็สั่งฆ่าเล่าปี่ที่ให้กวนอูมาฆ่าทหารเอกเสียถึงสองคน เล่าปี่จึงกล่าวอ้างว่ามิรู้เรื่องแลจะยกกวนอูให้อ้วนเสี้ยวได้ทำการสืบไป อ้วนเสี้ยวจึงตกลงยินยอม

อยู่มากวนอูได้ข่าวว่าเล่าปี่ไปอยู่ด้วยอ้วนเสี้ยว ก็คิดทำการออกจากโจโฉไปหาเล่าปี่ แต่ยังรั้งรอไว้อยู่ด้วยยังมิได้ร่ำลาโจโฉ

สามก๊ก ตอนที่ 22 โจโฉเกลี้ยกล่อมกวนอู

สามก๊ก ตอนที่ 22 โจโฉเกลี้ยกล่อมกวนอู

โจโฉระดมพลเตรียมล้างเล่าปี่ ฝ่ายเตียนห้องแนะนำอ้วนเสี้ยวให้ตีฮูโต๋เวลานี้ด้วยเมืองยังว่างอยู่ แต่อ้วนเสี้ยวมิเชื่อมัวแต่กังวลบุตรที่ยังป่วยอยู่ มิมีใจออกรบพุ่งจึงตั้งมั่นอยู่ในเมือง

ฝ่ายเล่าปี่ เตียวหุยคิดอุบายแอบปล้นค่ายโจโฉ แต่ทำการมิสำเร็จถูกโจโฉตีแตกพ่ายกระจัดกระจายไป เล่าปี่หนีไปตัวคนเดียวเข้าพึ่งอ้วนเสี้ยว โจโฉจับตัวกวนอูที่อยู่รักษาครอบครัวเล่าปี่ที่เมืองแห้ฝือได้ เข้าเกลี้ยกล่อม กวนอูยอมปลงใจอยู่ด้วยโจโฉโดยมีข้อแม้สามประการ ประการหนึ่งจะอยู่รับใช้พระเจ้าเหี้ยนเต้มิใช่โจโฉ อีกประการหนึ่ง ขออยู่รับใช้พี่สะใภ้ทั้งสองเองห้ามมิให้ใครกล้ำกลาย ประการสุดท้ายหากรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ไหนจะรีบไปหาอย่างไม่รีรอ โจโฉตกลงยินยอมรับกวนอู

ตั้งแต่กวนอูมาอยู่โจโฉเอาใจทุกวันมิได้ขาด สามวันแต่งโต๊ะเลี้ยงทีหนึ่ง แต่กวนอูยังมีใจอยู่กับเล่าปี่ โจโฉจึงนึกเสียใจยิ่ง วันหนึ่งโจโฉยกม้าเซ็กเธาว์ให้กวนอู กวนอูปลาบปลื้มใจยิ่งนักว่าจะได้กลับไปหาเล่าปี่ได้เร็วขึ้น โจโฉจึงมีความวิตกยิ่งนัก ฝั่งหนึ่งชื่มชมกวนอูว่ามีความกตัญญูหาผู้ใดเสมอมิได้

ประวัติสามก๊ก โจหอง จื่อเหลียน

โจหอง ชื่อรอง จื่อเหลียน เกิดเมืองพ่าย(ปัจจุบันคือ เมืองปอโจวในมณฑลอันฮุย) มีศักดิ์เป็นญาติผู้น้องของโจโฉ ช่วงที่โจโฉแยกตัวออกจากทัพพันธมิตรอีก 17หัวเมือง เพราะจะตามไปไล่ตีทัพตั๋งโต๊ะ ที่กำลังหนีไปเมืองฉางอัน ในตอนนั้นทัพของโจโฉถูกซ้อนกลและโดนตีขนาบสองข้าง ที่เมือง เอ๊งหยง ปรากฏว่าโจโฉพ่ายแพ้ยับเยิน ตัวโจโฉเองพลัดหลงกับทหารเอก และกำลังอยู่ในที่คับขันเพราะม้าถูกยิงตาย อีกทั้งมี ซีเอ๋ง ลูกน้องตั๋งโต๊ะ ไล่ติดตามมา โจหองได้ตีฝ่าข้าศึกเข้ามาช่วยโจโฉ และยังสละม้าในโจโฉขี่ (ตัวเองเดินเท้า) โจโฉไม่ยอมในทีแรก แต่โจหองพูดว่า “โลกนี้ขาดโจหองได้ แต่ต้องไม่ขาดโจโฉ” โจหองได้ติดตามโจโฉไปที่แม่น้ำเปียน ซึ่งได้พบว่าน้ำลึกมากจนไม่มีที่ข้ามไปได้ เขาจึงเดินเสาะหาเรือตามตลิ่งจนพบ และใช้เรือข้ามแม่น้ำหลบหนีไปเมืองพ่ายบ้านเกิด

หลังจากนั้น โจหองได้อาศัยความเป็นสหายกับ เฉินเหวิน เจ้าเมืองหยางโจว (เอ็งจิ๋ว) เพื่อนำบริวารกว่าพันคนไปเกณฑ์คนในดินแดนปกครองของ เฉินเหวิน เข้ากองทัพโจโฉ ที่แม่น้ำ ลู่ เขาเกณฑ์กองทหารติดเกราะได้ 2,000 คน และมุ่งหน้าไปทางตะวันออกสู่เมือง ตันหยาง เขาเกณฑ์คนเพิ่มได้อีกหลายพันคน ก่อนที่จะมารวมทัพกับโจโฉที่เมือง หลงคัง

ในช่วงที่โจโฉกำลังโจมตีโตเกี๋ยม เจ้าแคว้นชีจิ๋ว เตียวเมา (จริงๆน่าจะเป็น เตียวเมี่ยวที่เป็นน้องชาย เพราะเตียวเมาถูกเล่าต้ายฆ่าตายตั้งแต่ตอนผิดใจกันหลังทัพพันธมิตรสลาย) ได้จับมือกับลิโป้ก่อกบฏต่อโจโฉ เป็นช่วงเวลาเดียวกับการเกิดทุพภิกขภัยขนานใหญ่ ในแถบนั้น โจหองได้นำทหารไปยึดเมืองตงผิง และฟ่านเพื่อรวบรวมข้าวสารและอาหารไปหล่อเลี้ยงกองทัพ ทำให้โจโฉสามารถรบชนะเตียวเมาและลิโป้ที่เมืองปักเอี๊ยง ตัวลิโป้ต้องหนีเตลิดไปพึ่งเล่าปี่ที่ชีจิ๋ว ในช่วงที่โจโฉทำการยึดเมืองคืน โจหองได้โจมตีและสามารถยึดเมืองคืนมาได้สิบกว่าเมือง (เช่น จี้หยิง , ซานหยาง , จงโหมว , หยางเว่อ , จิง และ มี่)

ความดีความชอบในการศึกเหล่านั้น ทำให้โจหองได้รับตำแหน่ง นายพันอินทรีผงาด และเลื่อนขั้นเป็น นายพลประจักษ์กล้า เมื่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่ฮูโต๋ ได้แต่งตั้งให้โจหองเป็นมหาดเล็กหลวง (เจียงยี่ ต้าฝู่) หลังจากนั้นโจหอง ได้เข้าร่วมปฏิบัติการรบกับทางเล่าเปียว โจหองรบชนะขุนพลของเกงจิ๋วที่เมือง อู๋หยาง , หยินเย่ , ตู้หยาง และ ป๋อหวาง ทำให้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น ขุนพลกระพือขวัญ และกินบรรดาศักดิ์ เป็นพระยาแห่งจังหวัด กว่อหมิง เขาได้ต่อสู้ภายใต้ร่มธงของโจโฉมาหลายสมรภูมิ และได้รับการเลื่อนขั้นตามลำดับ เป็นขุนพลพิทักษ์เมืองหลวง

ในการรบที่ด่านถงกวน (ตงก๋วน) ซึ่งม้าเฉียวยกทัพมาแก้แค้นให้ม้าเท้ง โจหองได้รับคำสั่งให้ไปตั้งรับขัดตาทัพที่ถงกวน (โดยให้ตั้งรับอย่างเดียว รอโจโฉมาเสริมกำลังก่อน) เพราะโจโฉขณะนั้นกำลังเตรียมการบุกซุนกวนแถวๆ เมืองหับป๋า แต่ม้าเฉียวและหันซุยใช้การด่าโคตรเหง้าของโจโฉ หลายวันเข้าโจหองทนไม่ได้ ยกทัพออกมาต่อสู้ด้วย และถูกม้าเฉียวอ้อมทัพไปตีขนาบสองข้างจนพ่ายแพ้ ซิหลงได้ตามมาแก้ไขโจหองหนีไปได้ เหตุการณ์นี้ทำให้โจโฉโกรธโจหองมากจนถึงขั้นจะประหาร แต่ได้ขุนพลต่างๆขอไว้อย่างไรก็ดี ตอนที่โจโฉเสียทีม้าเฉียวเช่นกัน ก็ได้โจหองมาช่วยชีวิตอีกครั้งหนึ่ง โจโฉรู้สึกซาบซึ้งมาก จึงไม่ถือเอาโทษครั้งก่อนในที่สุด

ในตอนที่เว่ยเหวินตี้ (โจผี) สถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้ เริ่มต้นศักราช หวงชูปีที่ 1 (ค.ศ. 220) โจหองได้รับตำแหน่งนายพลองครักษ์ (เว่ยเจียงจวิน) , นายพลทัพม้าเร็ว (เผี่ยวจี้เจียงจวิน) ซึ่งถือเป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดที่มักมอบให้แก่เชื้อพระวงศ์หรือขันทีคนสนิท ข้อมูลจากกระทู้ยศทหารในสามก๊ก โดยพี่ซุนเซ็ก) ที่ดินศักดินาก็ได้รับเพิ่มอีก 1,000 ครัวเรือน จากของเดิม 2,100 ครัวเรือน (ถือว่าเยอะมากๆแล้วในสมัยนั้น) หลังจากนั้นก็ได้เลื่อนยศเป็นพระยาแห่งเมือง ตู้หยาง

โจหองค่อนข้างมั่งคั่งและมีฐานะมาก แต่ตัวโจหองเองกลับเป็นคนมัธยัสถ์สุดๆ (ถึงขั้นตระหนี่) จึงมีเหตุบาดหมางกับโจผี ในตอนที่โจผียังหนุ่ม ได้ไปขอยืมเงินจากโจหอง แต่โจหองปฏิเสธที่จะให้ ทำให้โจผีผูกใจเจ็บแค้นมาตลอด มาสบโอกาสเอาคืนในตอนที่ลูกน้องโจหอง (บางฉบับว่า เป็นอาคันตุกะในบ้านโจหอง) กระทำผิดกฎหมาย โจผีเลยถือเป็นเหตุยัดข้อหาให้โจหองต้องติดคุก และตัดสินโทษประหาร ขุนนางทั้งปวงพยายามทัดทาน แต่ก็ไม่เป็นผล ในตอนนั้นโจจิ๋น (คู่กรณีอีกคนของโจหอง) ก็อยู่ในเหตุการณ์ จึงวิงวอนโจผีด้วย ความว่า “ถ้าฝ่าบาทตัดสินโทษประหารแก่โจหอง โจหองจะต้องคิดว่าเป็นข้าที่เพ็ดทูลพระองค์แน่” โจผีโต้ตอบว่า “ขอให้วางใจ ทุกอย่างข้ารับไว้คนเดียวเอง” แต่ฮองเฮาเปียนสี ได้ขัดขึ้นมาว่า “ในละแวกดินแดนเหลียง และ เป่ย ถ้าไม่ได้โจหองรักษาไว้ ก็ไม่มีท่านในวันนี้เป็นแน่” และหลั่งน้ำตาวิงวอนให้โจผีปล่อยโจหอง จนโจผียินยอมในที่สุด แต่ให้คงโทษปลดออกจากตำแหน่งทั้งปวงและยึดที่ดินศักดินาคืน เหตุการณ์นี้สร้างความช้ำใจแก่โจหองมาก (ขณะนั้นโจหองอายุได้ 51 ปี) ที่ถูกกันออกจากสถานะที่เคยเป็นอยู่

ภายหลังสิ้นแผ่นดินโจผี รัชทายาทโจยอยได้ขึ้นครองบัลลังก์ จึงยกโจหองเป็นแม่ทัพหลัง (โฮ่วเจียงจวิน) และเลื่อนยศศักดินาแบบก้าวกระโดดเป็นพระยาแห่ง เล่อฉาง กินที่ดินศักดินาจำนวน 1,000 ครัวเรือน หลังจากนั้น โจหองก็ได้เลื่อนตำแหน่งกลับเป็นนายพลทัพม้าเร็ว (เผี่ยวจี้เจียงจวิน) แต่เป็นเพียงแค่ตำแหน่งลอยๆ ตั้งไว้เพื่อเป็นเกียรติเท่านั้น เขาเสียชีวิตด้วยโรคชราในศักราชไท่เหอที่ 6 (ค.ศ. 232) จึงได้รับบรรดาศักดิ์พระราชทานเป็นพระยาสรรเสริญ

ผู้สืบทอดของโจหองคือ เฉาฝู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่โจโฉยังมีชีวิตอยู่ ได้แบ่งที่ดินศักดินาของโจหองส่วนหนึ่งให้ลูกของเขา โจจิ๋น เป็นพระยา และญาติอีกคนของโจหอง ชื่อ โจฮู เป็นคนสุภาพ ระมัดระวังตัว และเคารพในกฎระเบียบ เขาได้รับตำแหน่งเป็นถึง นายพลองครักษ์ (เว่ยเจียงจวิน) และเป็นพระยา(โหว) ด้วย

นิสัยส่วนตัวของโจหองนอกจากจะตระหนี่แล้ว ยังเป็นคนที่ชอบอวดอ้างวีรกรรมครั้งก่อนๆ ให้ผู้อื่นฟัง เพื่อให้มีผลต่อการเลื่อนตำแหน่งของตน และยังชอบพูดจายั่วโทสะ โจจิ๋น ญาติอีกคนหนึ่งของโจโฉ ว่าเป็นพวกน้ำหนักเกิน (หมูตอนนั่นเอง) พฤติกรรมเหล่านี้ ได้ถูกเอียวฮู (ผู้เป็นหนึ่งในคณะมนตรีของแคว้นเว่ย) ตักเตือนอยู่เนืองๆ

ในฉบับนิยาย โจหองเป็นตัวละครประเภทตัวประกอบเสียส่วนใหญ่ โจหองเปิดตัวพร้อมๆกับ ญาติโจโฉ อย่าง แฮหัวตุ้น , แฮหัวเอี๋ยน และโจหยิน แต่โจหองเป็นผู้ที่มีบทบาทน้อยที่สุด ฉากเด่นๆ มีเพียง การช่วยชีวิตโจโฉจากซีเอ๋ง และ การรบแพ้ที่ด่านถงกวน แต่ช่วยชีวิตโจโฉอีกครั้งเท่านั้น นอกจากนั้นแล้ว เป็นแม่ทัพรอง หรือไม่ก็เป็นขุนพลคุมทัพหลัง หรือไม่ก็เป็นขุนพลที่ไปตรึงกำลังเท่านั้น แต่เรื่องผิดใจกับโจผี มีบันทึกตรงกันทั้งในฉบับประวัติศาสตร์ และฉบับนิยาย อีกทั้งสาเหตุการตายก็เหมือนกันคือ แก่ตาย

สามก๊ก ตอนที่ 21 เปิดโปงแผนลอบฆ่า

สามก๊ก ตอนที่ 21 เปิดโปงแผนลอบฆ่า


ฝ่ายเล่าเปียว โจโฉแต่งตั้งยีเอ๋งไปเกลี้ยกล่อม ด้วยยีเอ๋งมีนิสัยหยาบช้า เล่าเปียวจึงมิเข้าด้วยโจโฉ ทั้งส่งยีเอ๋งไปให้หองจอฆ่า

อยู่มาเกียดเป๋งหมอหลวงเข้าร่วมด้วยตังสินคิดอ่านล้างโจโฉ ออกอุบายเข้ารักษาโรคปวดหัวของ โจโฉแลใส่ยาพิษลงไปในยา โจโฉรู้ทันแลรู้ตัวผู้สมคบคิด จึงจับตัวเกียดเป๋งไปทรมาณจนตายและจับตัวตังสิน จูฮก จูลัน ตันอิบ โงห้วน เสียพร้อมบุตรภรรยาไปฆ่าเสียสิ้นนอกกำแพงเมือง รวมทั้งนางตังกุยหุยผู้น้องตังสินซึ่งเป็นมเหสีพระเจ้าเหี้ยนเต้ด้วย แล้วสั่งโจหองให้กำกับตรวจตราพระราชวัง ห้ามมิให้เชื้อพระวงศ์เข้าไปได้

วันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2555

สามก๊ก ตอนที่ 20 เริ่มยุทธการกัวต๋อ

สามก๊ก ตอนที่ 20 เริ่มยุทธการกัวต๋อ


เล่าปี่จึงเชื้อเชิญอ้วนเสี้ยวมาช่วยตีโจโฉ อ้วนเสี้ยวจึงตัดสินใจยกตี แล้วอ้วนเสี้ยวส่งจดหมาย ไปทั่วทุกเมืองห้ามเข้าด้วยโจโฉ โจโฉรู้ดังนั้นสั่งให้เล่าต้าย อองต๋งไปสกัดทัพเล่าปี่โดยให้ธงสำคัญไปเสมือนว่า โจโฉยกมาเองอีกส่วนหนึ่งให้โจหยินสกัดที่กัวต๋อ อนึ่งทัพอ้วนเสี้ยวยังรีรออยู่ยังมิออกรบพุ่งยืดเยื้ออยู่

ฝ่ายเล่าปี่จับตัวเล่าต้าย อองต๋งได้ รู้ว่าโจโฉไม่ได้นำทัพใหญ่มาเอง จึงปล่อยเล่าต้าย อองต๋งเสีย โจโฉโกรธคิดตีเล่าปี่ ขงหยงที่ปรึกษาจึงบอกว่าควรเกลี้ยกล่อมเล่าเปียว เตียวสิ้ว เสียก่อนจึงไม่พะวงหน้าพะวงหลัง โจโฉเห็นชอบด้วย

โจโฉจึงส่งเล่าหัวไปเกลี้ยกล่อมเตียวสิ้ว เตียวสิ้วกับกาเซี่ยงที่ปรึกษาตกลงเข้าด้วยโจโฉ โจโฉจึงแต่งตั้งเตียวสิ้วเป็นนายทหารผู้ใหญ่ กาเซี่ยงเป็นที่ปรึกษา

สามก๊ก ตอนที่ 19 อ้วนสุดตาย

สามก๊ก ตอนที่ 19 อ้วนสุดตาย


ครั้นเล่าปี่รับคำตังสินแล้วจึงแสร้งถ่อมตัวปลูกผักอยู่แต่ในบ้าน โจโฉสงสัยจึงเชิญเล่าปี่กินโต๊ะ เสพสุราที่สวนแล้วปรึกษาการราชการอยู่

โจโฉแสร้งถามหาผู้คิดการใหญ่ เก่งกล้าในแผ่นดินดังมังกรสำแดงเดชหวังจับพิรุธเล่าปี่ เล่าปี่บ่ายเบี่ยงไปตอบเจ้าเมืองอื่น โจโฉจึงว่าอันผู้มีสติปัญญาริอ่านคิดการใหญ่เห็นจะมีแต่เรากับท่านเท่านั้น เล่าปี่ครั้นพอได้ยิน จึงสะดุ้งตกใจเป็นการใหญ่ ตะเกียบที่ถืออยู่หลุดจากมือ ขณะนั้นเกิดพายุหนักได้ยินเสียงฟ้าร้อง เล่าปี่จึงแสร้งทำเป็นว่าตกใจฟ้าร้องแล้วเอามือปิดหูไว้ ตะเกียบหลุดออกจากมือ โจโฉเห็นดังน้นก็สิ้นสงสัย นึกว่าเล่าปี่ขี้ขลาดนัก ต่อมาโจโฉจึงไม่ได้คิดแคลงระแวงเล่าปี่

อยู่มาเล่าปี่ได้ยินข่าวว่ากองซุนจ้านแพ้อ้วนเสี้ยวเสียแล้ว ตัวนั้นฆ่าบุตรภรรยาเสียสิ้น แล้วเชือดคอตายเล่าปี่นึกสงสารยิ่งนักทั้งยังนึกถึงจูล่งด้วย ต่อมาได้ข่าวว่าอ้วนสุดหวังไปรวมกับอ้วนเสี้ยว ณ เมือง กิจิ๋ว เล่าปี่จึงอาสาออกสกัดตี ทั้งคิดหนีเงื้อมมือโจโฉ โจโฉจึงยกให้ทหารไปห้าหมื่นไปสกัดทัพ

เล่าปี่ออกรบด้วยอ้วนสุด ณ เมืองชีจิ๋ว กองทัพเล่าปี่ไล่ฆ่าทหารอ้วนสุดแตกกระจายไป อ้วนสุดจึงหนีไปทางเมืองฉิวฉุน ระหว่างทางถูกโจรชิงตีเอาทรัพย์แลเสบียงไปเป็นอันมาก อ้วนสุดนึกเสียใจยิ่งนัก หนีไปขอทานอาหารชาวบ้านกิน ชาวบ้านมีใจเจ็บแค้นเอาข้าวทั้งเปลือกหุงให้กิน อ้วนสุดกินไม่ได้ถามหาน้ำผึ้งละลายกิน ชาวบ้านโกรธตวาดว่าที่กันดารแห่งนี้ มีแต่โลหิตคน อ้วนสุดนึกน้อยใจ อาเจียนโลหิตออกแล้วขาดใจตายบนเตียง ฝ่ายเล่าปี่รู้ว่าอ้วนสุดตายแล้ว จึงแจ้งไปยังโจโฉว่าขอไปรักษาเมืองชีจิ๋ว แล้วเตียวหุยได้ฆ่ากีเหมาซึ่งโจโฉสั่งมากำกับเสียเล่าปี่คิดเกรงกลัวโจโฉ มาตียิ่งนัก

ประวัติสามก๊ก หันซุย

 ประวัติสามก๊ก หันซุย

หันซุย (อังกฤษ: Han Sui) เป็นเจ้าเมืองเปงจิ๋ว เป็นเพื่อนสนิทของม้าเท้ง เจ้าเมืองเสเหลียง(พ่อของม้าเฉียว) เคยร่วมรบกับม้าเท้งในการรบกับลิฉุย กุยกี ในการรบครั้งนั้น หันซุยเกือบโดนหวนเตียว ทหารของลิฉุยจับตัวได้ แต่หันซุยได้อ้างความเป็นคนบ้านเดียวกัน หวนเตียวจึงปล่อยหันซุยไป

เมื่อม้าเท้งถูกโจโฉประหาร หันซุยได้ร่วมกับม้าเฉียวในการรบกับโจโฉเพื่อแก้แค้นให้ม้าเท้ง ในศึกครั้งนี้ ม้าเฉียวเป็นฝ่ายได้เปรียบหลายครั้ง แต่ต่อมากาเซี่ยงได้เสนออุบายให้โจโฉส่งจดหมายที่ดูเหมือนทำข้อความสำคัญให้ลบเลือนไปส่งไปให้หันซุย ทำให้ม้าเฉียวระแวงในตัวของหันซุยว่าจะสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ หันซุยทนแรงกดดันไม่ไหวจึงคิดจะสวามิภักดิ์ต่อโจโฉจริงๆ ม้าเฉียวได้ทราบดังนั้นจึงวิ่งไปที่ค่ายของหันซุยและตัดแขนข้างซ้ายของหันซุยได้ หันซุยหนีไปพึ่งโจโฉ เมื่อโจโฉตีทัพม้าเฉียวกระจัดกระจายแล้ว หันซุยจึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองเสเหลียง

ประวัติสามก๊ก ม้าเท้ง โซ้วเฉิง

ประวัติสามก๊ก ม้าเท้ง โซ้วเฉิง


ม้าเท้ง (อังกฤษ: Ma Teng; จีนตัวเต็ม: 馬騰; จีนตัวย่อ: 马腾; พินอิน: Mă Téng) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊ก ที่มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ เป็นขุนศึก ในยุคราชวงศ์ฮั่นตะวันออก และสามก๊กของจีน ปกครองเมืองเสเหลียง(มลฑลเหลียงโจว) ด้วยกันกับหันซุย น้องร่วมสาบานของเขาม้าเท้งและหันซุย ใช้ความมุมานะพยายามเป็นแรมปี เพื่อที่จะแยกตัวเป็นอิสระจากแผ่นดินส่วนกลาง ม้าเท้งเป็นบิดาของม้าเฉียวและเป็นอาของม้าต้าย ผู้ที่รับใช้ต่อจ๊กก๊กในภายหลัง

ม้าเท้ง เป็นบุตรของม้าเป้ง ซึ่งเป็นข้าราชการเล็ก ๆ ในเมืองเทียนซุย แต่เพราะมีการโต้เถียงหลายอย่าง เขาจึงถูกปลดออกจากตำแหน่งและไปอยู่อาศัยกับชนชาวเกียง(ทางทิศตะวันตกของจีน) เขาได้แต่งงานกับหญิงชาวเกียง ซึ่งก็คือผู้ที่ให้กำเนิดม้าเท้ง ม้าเท้งในวัยเยาว์นั้น เขามีฐานะยากจนมาก ว่ากันว่าเขาต้องขึ้นไปเก็บฟืนบนเขา เพื่อเอามาขายเลยทีเดียว เมื่อเขาเติบโตขึ้นกล่าวกันว่า เขาสูงถึง 8 เชียะ (ประมาณ184 ซ.ม.) เลยทีเดียว ม้าเท้งเป็นคนที่ใจดีกับผู้อื่น และเป็นคนสุขุม มีผู้นับหน้าถือตามากมาย

ในปี พ.ศ. 727 เมื่อสิ้นสุดยุคสมัยของพระเจ้าเลนเต้แห่งราชวงศ์ฮั่น ชนชาวเกียงจับอาวุธขึ้นเพื่อต่อต้านราชสำนัก และมีขุนพลผู้ที่เข้าร่วมคือหันซุย ราชสำนักก็ได้ให้แม่ทัพหลวงนำทัพ เพื่อปราบกบฏชาวเกียง และม้าเท้งก็ได้เข้าสมัครเป็นพลทหารเข้าร่วมทัพ ปราบกบฏ ทักษะความสามารถของเขาในสนามรบนั้นเป็นที่ยอมรับ เขามุ่งทะลวงทัพกบฏเข้าไปอย่างไม่ลดละ อย่างไรก็ตามเมื่อแม่ทัพหลวงถูกกบฏฆ่าตายม้าเท้งกลับแปรภักดิ์ไปเข้ากับหันซุย แม่ทัพฝ่ายกบฏ และในที่สุดกองทัพกบฏ ก็พ่ายแพ้ต่อแม่ทัพฮั่นนามว่า ฮองฮูสง แต่ม้าเท้งก็สามารถหนีมากับแม่ทัพกบฏได้ สุดท้ายม้าเท้งและเพื่อนร่วมทัพกบฏก็จะได้รับยศจากราชสำนัก

ในคราวที่ลิฉุยและกุยกี ยึดอำนาจจากเมืองเตียงฮัน หลังจากที่ตั๋งโต๊ะถูกสังหาร ม้าเท้ง และหันซุยได้เข้าสวามิภักดิ์พวกเขาและได้รับบรรดาศักดิ์เป็นแม่ทัพปราบตะวันออก (征東将軍) และแม่ทัพป้องกันตะวันตก (鎮西将軍) ตามลำดับ ถึงกระนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็แย่ลงอย่างรวดเร็ว ม้าเท้งและหันซุยได้นำทัพบุกตีเมืองเตียงฮัน แต่พวกเขาก็ได้รับความปราชัย และด้วยเสบียงที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดจึงยกทัพกลับเมือง แม้ว่าม้าเท้งและหันซุย จะทำสงครามมากมายเพื่อขยายเขตแคว้นของพวกเขา จนถึงจุดที่ต้องฆ่าลูกเมียของเจ้าเมือง เมืองอื่น ๆ โจโฉ ผู้มีชัยเหนืออ้วนเสี้ยว จากสงครามศึกกัวต๋อ ซึงได้ทำลายความสงบสุขระหว่างม้าเท้งและหันซุย ผู้ที่เข้าสวามิภักดิ์ต่อโจโฉ หลังจากนั้นก็มีคำสั่งจากราชสำนักให้ม้าเท้ง และครอบครัวของเขา เข้าไปในภาคกลาง ซึ่งเหลือเพียงม้าเฉียว ลูกคนโตของเขาเท่านั้นที่อยู่ในเมืองกับหันซุย เมื่อคราวที่ม้าเฉียว และหันซุยตั้งตนเป็นปรปักษ์กับโจโฉ และนำกองทัพบุกโจโฉ เพื่อแก้แค้นให้กับม้าเท้ง และครอบครัวของเขา ที่ถูกสังหาร

สามก๊ก ตอนที่ 18 แผนฆ่าโจโฉ

สามก๊ก ตอนที่ 18 แผนฆ่าโจโฉ


โจโฉปูนบำเน็จทแกล้วทหารใหญ่น้อยทั้งปวง แล้วพาเล่าปี่ไปเข้าเฝ้า พระเจ้าเหี้ยนเต้ลำดับเชื้อพระวงศ์ดูจึงเรียกเล่าปี่เป็นอา

ขณะนั้นอำนาจทั้งปวงอยู่ในมือโจโฉสิ้น ครั้งหนึ่งโจโฉพาพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกประพาสป่ายิงเนื้อ แล้วทำหยาบช้าให้พระเจ้าเหี้ยนเต้เสียหน้ายิ่งนัก พระเจ้าเหี้ยนเต้คิดระกำใจโทมนัสอยู่ ฮกอ้วนผู้เป็นบิดานางฮกเฮาผู้เป็นมเหสีพระเจ้าหี้ยนเต้เสนอคิดอ่านล้างโจโฉ จึงชักชวน ตังสิน จูฮก จูลัน ตันอิบ โงห้วน ม้าเท้งแลเล่าปี่ เข้าล้างโจโฉแลทั้งเจ็ดได้ลงหนังสือสัญญากัน สั่งห้ามแพร่งพรายไป

ประวัติสามก๊ก ตันก๋ง

ประวัติสามก๊ก ตันก๋ง
ประวัติสามก๊ก ตันก๋ง

ตันก๋งเป็นเจ้าเมืองจงพวน เมื่อคราวที่โจโฉหลบหนีจากการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ และถูกทหารของตันก๋งจับได้ที่อำเภอจงพวน ตันก๋งได้ไต่สวนความผิดของโจโฉ ซึ่งให้การว่าการที่ลอบสังหารตั๋งโต๊ะนั้น มีเจตนาที่จะฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่นให้กลับมายิ่งใหญ่ดังเดิ่ม และจะเดินทางกลับไปเมืองตันลิวบ้านเกิดเพื่อรวบรวมกองทัพและหวนย้อนกลับมาต่อสู้กับตั๋งโต๊ะ ทำให้ตันก๋งรู้สึกชื่นชมยินดีในความจงรักภักดีของโจโฉ จึงได้ปล่อยตัวโจโฉไปและติดตามโจโฉไปร่วมคิดการใหญ่ในภายหน้า

ระหว่างเดินทางทั้งสองได้แวะพักผ่อนที่บ้านของแปะเฉียซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานของโจโก๋บิดาของโจโฉ ซึ่งให้การต้อนรับทั้งสองเป็นอย่างดี ระหว่างรอแปะเฉียที่ขอตัวไปซื้อเหล้า โจโฉได้ยินเสียงคนรับใช้พูดคุยดังจากในบ้านว่า "มัดมันไว้ก่อนแล้วค่อยฆ่ามัน" ทำให้เข้าใจว่าแปะเฉียคิดส่งตนไปยังเมืองหลวงเพื่อเอาความดีความชอบ จึงสังหารคนในบ้านเสียชีวิตรวมทั้งหมด 8 คน ต่อมาภายหลังได้พบความจริงคือหมูตัวหนึ่งถูกมัดอยู่ทำให้รู้ว่าเป็นการเข้าใจผิด

โจโฉและตันก๋งจึงลอบหลบหนีออกจากบ้านแปะเฉีย ระหว่างทางเจอแปะเฉียขี่ลาหอบสุรากลับมา โจโฉจึงฆ่าแปะเฉียเพื่อเป็นการปิดปาก ทำให้ตันก๋งเห็นความโหดเหี้ยม จึงขอแยกทางจากโจโฉ ต่อมาภายหลังโจโฉยกทัพตีชีจิ๋ว เพื่อเป็นการแก้แค้นให้บิดาที่ถูกทหารของโตเกี๋ยม เจ้าเมืองชีจิ๋วฆ่าตาย ตันก๋งได้เดินทางไปพบโจโฉและพยายามขอชีวิตของราษฎรที่ไม่มีความผิด แต่กลับถูกโจโฉไล่กลับออกไป ตันก๋งจึงไปรับใช้เตียวเมา เจ้าเมืองตันลิวแทน ในขณะนั้นเองลิโป้ก็ลี้ภัยจากลิฉุยกุยกีมาอาศัยอยู่กับเตียวเมาจึงทำให้ตันก๋งและลิโป้ได้มาเจอกัน

ตันก๋งได้วางแผนให้ลิโป้หลายต่อหลายครั้ง และได้นำไฟที่เป็นพลังจักรวาลมาใช้เป็นครั้งแรกในสามก๊กทำให้โจโฉเกือบตาย แต่แผนของตั๋งก๋งไม่ได้สำเร็จผลเนื่องจากหลายต่อหลายครั้งที่ตันก๋งได้เสนอลิโป้ไปแต่ลิโป้กลับไม่ทำตาม ต่อมาลิโป้ได้ืเชื่อใจและวางใจตันกุ๋ยตันและตันเต๋งสองพ่อลูกที่เป็นไส้ศึกทำให้ลิโป้ต้องเสียเมืองจนต้องพ่ายแพ้ต่อโจโฉในที่สุด

ก่อนที่โจโฉจะประหารตันก๋ง โจโฉก็นึกคิดหวนกลับไปตอนที่ตันก๋งไว้ชีวิตโจโฉและละทิ้งตำแหน่งขุนนางมาร่วมอุดมการณ์กัน แต่ตันก๋งเมื่อถูกจับแล้วก็ไม่ยอมขอชีวิตต่อโจโฉ และเดินไปยังลานประหารอย่างองอาจ หลังจากตันก๋งถูกประหารแล้วก็สั่งทหารให้แต่งการศพตันก๋งอย่างสมเกียรติแล้วนำไปฝังอย่างธรรมเนียม และให้นำมารดาและภรรยาตันก๋งไปอาศัยอยูที่เมืองฮูโต๋

สามก๊ก ตอนที่ 17 ประหารลิโป้

 สามก๊ก ตอนที่ 17 ประหารลิโป้

ฝ่ายลิโป้จับเอาม้าใช้ฝ่ายโจโฉที่ส่งหนังสือไปยังเล่าปี่ให้คิดอ่านกำจัดลิ โป้ได้ จึงคิดแค้นใจแบ่งกองกำลังไปตีเมืองกุนจิ๋ว และเล่าปี่ที่เมืองเสียวพ่าย เล่าปี่รู้ดังนั้นจึงจัดแจงส่งหนังสือไปยังโจโฉให้ยกทัพมาช่วยโจโฉแจ้งดัง นั้นจึงคุมทหารมีฝีมือเป็นอันมาก ออกรบด้วยลิโป้โดยส่งแฮหัวตุ้นเป็นทัพหน้า

แฮหัวตุ้นได้ออกรบกับโกซุ่นทหารลิโป้ครั้นได้ทีไล่กวดไป โจเสงซุ่มเอาเกาทัณฑ์ยิงเข้าไปที่จักษุซ้ายแฮหัวตุ้นแฮหัวตุ้นร้องขึ้นด้วย เสียงอันดังแล้วดึงเกาทัณฑ์ออก ร้องว่าลูกตาเป็นสิ่งประเสิรฐที่พ่อแม่ให้มาจะให้ตกพื้นเสียมิได้แล้วจึงจับ ลูกตากลืนเข้าไปในปาก แล้วเอาทวนแทงโจเสงตกม้าตาย

ครั้นเล่าปี่ออกมาตั้งทัพซุ่มนอกเมือง ลิโป้เห็นดังนั้นจึงตีแตกพ่ายกระจัดกระจายไป ตัวเล่าปี่หนีออกไปหาทัพโจโฉฝ่ายตันกุ๋ย ตันเต๋ง ซึ่งเป็นไส้ศึกของโจโฉที่อยู้ ณ เมืองชีจิ๋ว คิดอุบายให้ลิโป้กับตันก๋งออกรบฆ่ากันเองแล้วยึดเมืองชีจิ๋วเสีย ลิโป้จึงแตกหนีไปยังเมืองเสียวพ่าย แต่ตันเต๋งคิดอุบายหลอกโกซุ่น เตียวเลี้ยวที่ประจำอยู่ ณ เมืองเสียวพ่ายให้ยกออกไปช่วยลิโป้ แล้วยึดเมืองเสียอีก ลิโป้รู้ดังนั้นจึงจำไปอยู่ ณ เมืองแห้ฝือ

โจโฉยกทัพล้อมเมือองแห้ฝือไว้ ให้เล่าปี่ไปสกัดอ้วนสุดกันมาช่วยลิโป้ ฝ่ายลิโป้มิคิดออกรบเชื่อฟังแต่ภรรยาไม่สนแผนอุบายของตันก๋ง เสพย์สุราทุกวันครั้นจะคิดให้อ้วนสุดมาช่วยรบก็มิได้ ด้วยอ้วนสุดให้ส่งบุตรสาวของตนที่เคยคิดส่งไปให้ก่อน แลโจโฉ เล่าปี่ได้ล้อมกองกำลังแน่นหนามิอาจฝ่าไปได้ ลิโป้จึงเสพย์สุราทุกวันมิได้ขาด วันหนึ่งภรรยาลิโป้เอากระจกมาส่องให้ดู ลิโป้เห็นตัวเองเสื่อมโทรมหมดราศีเพราะสุรา จึงสั่งห้ามให้ทหารทั้งปวง ห้ามกินสุราถ้าพบเห็นผู้ใดจะตัดศีรษะเสีย

วันหนึ่งลิโป้พบเฮาเสงคิดเลี้ยงสุรา จึงสั่งโบยหวายห้าสิบที เฮาเสงคิดแค้นใจเป็นอันมากจึงร่วมมือกับซุยเหียน ขโมยม้าเซ็กเธาว์ของลิโป้ไปกำนัลด้วยโจโฉ แล้วทั้งสองได้แอบไปจับมัดลิโป้ขณะนั่งหลับที่ประตูเมือง โจโฉเห็นดังนั้นได้ทีบุกเข้ายึดแห้ฝือได้ จับได้ทหารทั้งปวงหลังจากปิดล้อมอยู่หลายเดือน

โจโฉสั่งประหารโกซุ่น ลิโป้ เสีย แลตันก๋งคิดยอมตายเองมิยอมเป็นบ่าวสองนาย โจโฉเสียใจร้องไห้รักเป็นอันมากมิอาจรั้งไว้ได้จึงสั่งเลี้ยงดูบุตรภรรยา เป็นอย่างดี ส่วนเตียวเลี้ยวโจโฉเลี้ยงดูไว้เป็นทหารเอก

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

สามก๊ก ตอนที่ 16 อ้วนสุดหนีโจโฉ

สามก๊ก ตอนที่ 16 อ้วนสุดหนีโจโฉ

โจโฉจึงให้ลิโป้เป็นปีกซ้าย เล่าปี่เป็นปีกขวามุ่งสู่ลำหยง ครั้นถึงเมืองโจโฉจัดแจงให้ เล่าปี่ ลิโป้ ซุนเซ็ก โอบล้อมเมืองทั้งสี่ด้านให้สัญญาณบุกโจมตีพร้อมกัน อ้วนสุดเห็นต้านทานมิได้จึงพาครอบครัวแอบหลบหนีไปตำบลห้วยหนำ โจโฉมิรู้ว่าอ้วนสุดหนีจากเมืองจึงล้อมเมืองอยู่เดือนครึ่ง ทหารทั้งปวงอดอยากเสบียงอาหารยิ่งนัก โจโฉจึงยืมหัวของอองเฮานายฉาง ตัดหัวแล้วบอกว่าอองเฮากระทำผิดฉ้อข้าว ทหารทั้งปวงเห็นดังนี้จึงมีน้ำใจออกรบ แล้วสั่งให้ทหารทั้งปวงเบิกข้าวที่เหลือจนหมด สั่งให้โจมตีเมืองให้ได้

ครั้นโจโฉหักเอาเมืองได้รู้ว่าอ้วนสุดหนีไปเมืองห้วยหนำจึงคิดตีตาม รู้ข่าวว่าเตียวสิ้วกลับมาคิดตีจะเอาเมืองฮูโต๋จึงยกทัพกลับฮูโต๋ตระเตรียม การรบด้วยเตียวสิ้ว ต่อมารู้ข่าวว่าตวนอุย งอสิบ ฆ่าลิฉุย กุยกีได้แล้วเอาศีรษะมาให้ก็ยินดียิ่งแล้วยกทัพออกตีเตียวสิ้ว ขณะนั้นเป็นฤดูข้าวโภชน์สาลีสุก โจโฉสั่งทหารทั้งปวงห้ามเหยียบข้าวโภชน์สาลีแม้แต่ต้นหนึ่งจะฆ่าเสียมิเว้น แม้แต่นายกองใหญ่ ชาวบ้านทั้งปวงจึงสรรเสริญยิ่ง อยู่มาโจโฉขี่ม้าผ่านไร่สาลี นกบินตัดหน้า ม้าทีโจโฉขี่จึงตื่นวิ่งเตลิดเหยียบข้าวสาลีหักเป็นอันมาก เห็นว่าคำสั่งจะมิเป็นที่นับถือต่อไป จึงคิดอุบายแสร้งชักกระบี่จะเชือดคอตัวเอง นายทัพทั้งปวงจึงห้ามไว้ ว่าแล้วโจโฉจึงตัดเพียงผมเองว่าแก่ทหารทั้งปวง ทหารทั้งปวงจึงสรรเสริญโจโฉมากกว่าแต่ก่อนว่าอยู่ในสัตย์ธรรม

ครั้นโจโฉคิดตีเมือง กาเซี่ยงที่ปรึกษาเตียวสิ้วคิดอุบายหลอกโจโฉ โจโฉจึงแตกทัพหนีมา รู้ว่าอ้วนเสี้ยวจะยกทัพตีฮูโต๋จึงยกทัพกลับเมือง รู้ว่าอ้วนเสี้ยวทำการกำเริบจึงคิดยกไปตีแลขอความเห็นที่ปรึกษาทั้งปวง กุยแกจึงว่าการตีอ้วนเสี้ยวนั้นไม่ยากแล้วชี้ข้อเด่นของโจโฉสิบประการ ข้อด้อยของอ้วนเสี้ยวสิบประการ แต่ยังมิอาจตีได้ด้วยมีลิโป้คิดลอบตีฮูโต๋อยู่ โจโฉเห็นด้วย

โจโฉจึงแต่งตั้งอ้วนเสี้ยวเป็นเจ้าเมืองกิจื๋ว อ้วนเสี้ยวรู้ดังนั้นจึงมีความยินดีคิดออกรบด้วยกองซุนจ้าน ให้เล่าปี่ที่โจโฉให้กลับไปอยู่เมืองเสียวพ่ายรอการตลบหลังลิโป้ ให้คิดการจับลิโป้เสีย แล้วตระเตรียมกะเกณท์ทหารเตรียมออกรบ

สามก๊ก ตอนที่ 15 โจโฉเสียเตียนอุย

สามก๊ก ตอนที่ 15 โจโฉเสียเตียนอุย 

ครั้นอยู่มาเตียวสิ้วกับเล่าเปียวสมคบคิดกันจะมาตีเมืองฮูโต๋ โจโฉจึงสั่งพลออกรบด้วยแล้วส่งสัมพันธไมตรีไปยังลิโป้ ฝ่ายเตียวสิ้วเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงยอมเข้าเกลี้ยกล่อมแต่โดยดี มาวันหนึ่งโจโฉเห็นหญิงรูปงามรู้ว่าเป็นอาสะใภ้เตียวสิ้วจึงเลี้ยงไว้เป็น ภรรยา เตียวสิ้วคิดน้อยใจอัปยศนักจึงวางแผนหลอกมาตั้งค่ายในค่ายโจโฉให้ชะล่าใจ แล้วจึงจุดเพลิงรอบด้านพาทหารหวังจับโจโฉเสีย โจโฉหลบหนีมาทางข้างหลังได้ แต่เตียนอุยทหารเอกคู่ใจเข้ารบด้วยทหารเตียวสิ้วป้องกันสุดความสามารถ จนอาวุธที่ถือในมือหักจึงฉวยศพเข้าสองมือสู้เป็นสามารถ ทหารเตียวสิ้วระดมเกาทัณฑ์แลทวนเข้าทั่วร่างเตียนอุยต้องอาวุธบาดเจ็บทั่ว กาย ยืนพิงประตูค่ายจนสิ้นใจ

ฝ่ายโจโฉหลบหนีออกมาทางแม่น้ำหยกซุย สูญเสียโจงั่งบุตรเอกกับโจอั๋นบิ๋นผู้หลาน ครั้นรวบรวมทหารได้แล้ว จึงแต่งโต๊ะสุราเซ่นเตียนอุย ว่าแก่ทหารทั้งปวงว่าแม้เราเสียบุตรเอกแลหลานยังมิเสียดายเท่าเสียเตียนอุย เลยนึกเสียดายยิ่งนัก ว่าแล้วก็ร้องไห้รักเตียนอุย ทำให้ทหารทั้งปวงต่างร้องไห้ซึ้งใจยิ่งนัก แล้วจัดแจงยกทหารกลับฮูโต๋

อยู่มาลิโป้ได้รับหนังสือแต่งตั้งโจโฉจึงยินดียิ่งนัก คิดลำเลิกส่งลูกสาวแลตัดสัมพันธไมตรีกับอ้วนสุด อ้วนสุดโกรธจะยกไปรบลิโป้ ลิโป้จึงส่งจดหมายไปยังโจโฉฉบับหนึ่ง เล่าปี่ฉบับหนึ่งให้ยกมาช่วย แล้วออกรบด้วยอ้วนสุด อ้วนสุดเสียทีหนีไปพบเล่าปี่เข้าสู้ด้วยกวนอู ล่าถอยไปเมืองลำหยง คิดยืมกำลังซุนเซ็ก ซุนเซ็กโต้กลับด่าว่าไอ้โจรขบถ ต่อมาโจโฉส่งสาสน์แต่งตั้งไปแก่ซุนเซ็กให้เป็นเจ้าเมืองห้อยเขแล้วให้ยกไปตี อ้วนสุดด้วย โจโฉ เล่าปี่ ลิโป้ และซุนเซ็กจึงออกรบด้วยอ้วนสุด ณ เมืองลำหยงจากทุกทิศ

สามก๊ก ตอนที่ 14 ลิโป้ยิงเกาทัณฑ์ห้ามทัพ

สามก๊ก ตอนที่ 14 ลิโป้ยิงเกาทัณฑ์ห้ามทัพ


ฝ่ายอ้วนสุดตั้งแต่ได้ตราหยกมีใจกำเริบคิดตั้งตนเป็นฮ่องเต้ไม่คืนแก่ซุนเซ็ก คิดออกตีเล่าปี่ โดยเอาของไปติดสินบนลิโป้มิให้ช่วยเหลือเล่าปี่ แต่ลิโป้กริ่งเกรงว่าหากมิให้ความช่วยเหลือเล่าปี่ แล้วอีกหน่อยจะมีภัยถึงตัวเป็นแน่ จึงออกห้ามทัพโดยท้าพนันแสดงฝีมือยิงเกาทัณฑ์ติดปลายทวน ที่ไกลห้าเส้นถ้ายิงติดปลายทวนให้กิเหลงซึ่งอ้วนสุดใช้ยกมาตีเล่าปี่ถอยทัพ กลับไป ลิโป้ยิงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ กิเหลงจึงมิอาจทำอะไรได้เลยถอยทัพกลับไป

อ้วนสุดจึงใช้กลยุทธ์ปรองดองขอลูกสาวลิโป้ให้บุตรชายตน ครั้นจะส่งลูกสาวลิโป้คิดกลับคำหน่วงเวลาไว้ลิโป้กับเล่าปี่จึงยังมิได้กินแหนงกันเท่าไหร่นัก ต่อมาเตียวหุยใช้คนไปขโมยฝูงม้าลิโป้ ลิโป้รู้เข้าจึงโกรธยกทัพมาตีเสียวพ่ายแตก เล่าปี่กับครอบครัวจึงรบหนีฝ่ามาพึ่งโจโฉ ณ เมืองฮูโต๋ โจโฉจึงกราบทูลให้เล่าปี่ไปตั้ง ณ เมืองอิจิ๋วรอการแก้แค้น

ประวัติสามก๊ก หมอฮัวโต๋

ฮัวโต๋
ฮัวโต๋

ฮัวโต๋เป็นคนในยุคสามก๊ก เป็นชาวเมืองเจากุ๋น มีอาชีพเป็นแพทย์ หมอฮัวโต๋เป็นแพทย์ผู้มีฝีมือในการรักษาโรคอันยอดเยี่ยม วิธีการรักษาคนไข้ของหมอฮัวโต๋มีทั้งให้กินยาและผ่าตัด

ประวัติการรักษาคนไข้

ในสมัยที่ซุนเซ็กครองแคว้นกังตั๋ง จิวท่าย ทหารเอกของซุนเซ็กช่วยซุนกวนฝ่าวงล้อมของกลุ่มโจรป่า จิวท่ายพาซุนกวนฝ่าวงล้อมไปได้ แต่ตนเองต้องอาวุธโจรนับสิบกว่าแผล งีห้วนแนะนำหมอฮัวโต๋ให้มารักษาจิวท่าย ซุนเซ็กจึงได้เชิญหมอฮัวโต๋มารักษา ฮัวโต๋รักษาจิวท่ายแค่ 3 วัน แผลก็หายสนิท

ครั้งหนึ่ง กวนอูได้ยกทัพมาตีเมืองอ้วนเซียที่มีโจหยิน ทหารเอกโจโฉรักษาไว้อยู่ กวนอูถูกลูกเกาทัณฑ์อาบยาพิษของข้าศึกที่ไหล่ซ้ายจึงต้องถอนทัพกลับค่าย หมอฮัวโต๋ได้ข่าวจึงเดินทางมารักษา โดยการผ่าเนื้อที่ไหล่แล้วเอายาใส่ และเย็บเนื้อให้เป็นเหมือนเดิม โดยกวนอูไม่แสดงอาการเจ็บปวดให้เห็น กวนอูได้สรรเสริญว่าฮัวโต๋เป็นหมอเทวดา ฝ่ายฮัวโต๋ได้ชื่นชมกวนอูว่า เป็นคนไข้ที่อดทนต่อความเจ็บปวดได้ดี

บั้นปลายชีวิต เมื่อโจโฉป่วยเป็นโรคประสาท ปวดศีรษะอย่างรุนแรง ได้เชิญหมอฮัวโต๋มารักษา ฮัวโต๋บอกกับโจโฉว่าต้องผ่าศีรษะรักษาจึงจะหาย โจโฉโกรธหาว่าหมอฮัวโต๋สมรู้ร่วมคิดกับกวนอูคิดฆ่าตน จึงให้นำตัวไปขังไว้ จนหมอฮัวโต๋เสียชีวิตในคุกนั้นเอง

หมอฮัวโต๋
หมอฮัวโต๋
ตำราของหมอฮัวโต๋

ฮัวโต๋ได้แต่งตำราแพทย์ไว้เล่มหนึ่ง เผื่อว่าเมื่อตนสิ้นบุญ จะได้มีผู้สืบทอดวิชาการแพทย์

เมื่อฮัวโต๋ถูกโจโฉจับขังคุก มีผู้คุมชื่อหงออาย หงออายรู้ว่าฮัวโต๋เป็นหมอดีจึงได้ส่งข้าวปลาอาหารให้หมอฮัวโต๋มิได้ขาด ฮัวโต๋รู้คุณหงออายจึงเขียนจดหมายให้หงออายไปให้ภรรยาของฮัวโต๋ ให้นางนำตำราแพทย์ที่แต่งขึ้นมาให้หงออาย เมื่อหงออายได้ตำรา ฮัวโต๋ก็ได้สอนวิชาแพทย์ให้หงออายในคุกแล้วมอบตำรานั้นให้หงออาย ต่อมา ฮัวโต๋เสียชีวิตในคุก ภรรยาของหงออายเห็นว่าตำราแพทย์นั้นไร้ค่าจึงไปเผาเสีย หงออายเห็นเข้าจึงแย่งเอามาได้แค่ 2-3 แผ่น เป็นตำราตอนเป็ดตอนไก่ ตำราส่วนที่เหลือได้ถูกไฟเผาไหม้สิ้น

สามก๊ก ตอนที่ 13 ซุนเซ็กเป็นใหญ่ฝั่งกังตั๋ง

สามก๊ก ตอนที่ 13 ซุนเซ็กเป็นใหญ่ฝั่งกังตั๋ง 

ฝ่ายซุนเซ็กภายหลังบิดาตาย มีเหตุมิให้อยู่เมืองกังหนำจึงไปอยู่รับใช้ด้วยอ้วนสุด ต่อมาคิดเอาตราหยกกษัตริย์ที่ซุนเกี๋ยนผู้เป็นบิดาเก็บได้ครั้งรบกับตั๋ง โต๊ะไปจำนำแก่อ้วนสุด ยืมกำลังทหารคิดแก้แค้นเล่าอิ้วแทนบิดา ครั้นได้แล้วซุนเซ็กออกเดินทางมาพบสหายรักเก่าจิวยี่ จึงรับมาร่วมเดินทางด้วย ออกรบเล่าอิ้วได้ไทสูจู้เป็นพวก ภายหลังรบชนะคิดออกตีเงียมแปะฮอเจ้าเมืองต๋องง่อ อ่องหลองเจ้าเมืองห้อยเข ครั้นออกรบแตกพ่ายไปก็ได้เป็นใหญ่ในเมืองฝั่งกังตั๋งและได้ทหารแลสะสมเสบียง อาวุธไว้เป็นอันมาก ส่งสาสน์คำนับไปยังพระเจ้าเหี้ยนเต้และส่งคนไปทวงตราหยกคืนจากอ้วนสุด ครั้งนั้นเกิดเหตุการณ์สำคัญ จิวท่ายทหารเอกออกรบช่วยซุนกวนผู้น้องซุนเซ็กหลบหนีจากโจรป่าไว้ได้ แต่แผลเต็มตัวเห็นว่าจะไม่รอด ซุนเซ็ก ซุนกวนนึกสงสารจึงหาทางเชิญหมอฮัวโต๋ซึ่งเป็นหมอเทวดาในสมัยนั้นมารักษาให้ หายขาด หมอฮัวโต๋ต่อมาจึงมีชื่อเสียงยิ่งนัก

สามก๊ก ตอนที่ 12 โจโฉเป็นมหาอุปราช

สามก๊ก ตอนที่ 12 โจโฉเป็นมหาอุปราช 

ลิฉุย กุยกีกลับมาร่วมมือกันออกทัพตามพระเจ้าเหี้ยนเต้หวังฆ่าเสียให้ตาย ครั้นกระชั้นชิดพระเจ้าเหี้ยนเต้รับสั่งเรียกโจโฉมาช่วย โจโฉยกทัพสามสิบหมื่นเข้ามาสกัดทัพลิฉุย กุยกีทันเวลา ฝ่ายโจโฉเข้าเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ มีความเห็นว่าเมืองลกเอี๋ยงมิอาจทำนุบำรุงได้เหมือนเดิมแล้ว จึงเชิญเสด็จไปตั้งเมืองฮูโต๋เป็นราชธานีใหม่ ตั้งตนเป็นมหาอุปราช 

โจโฉภายหลังตั้งตนเป็นมหาอุปราชแล้วมีความเห็นว่า ลิโป้กับเล่าปี่ มีความกล้าแข็ง เกรงเป็นอันตรายต่อไปภายหน้าคิดกำจัดเสีย ซุนฮกที่ปรึกษาจึงคิดแผนการให้เสือสองตัวกัดกันเอง ส่งราชสาสน์ให้เล่าปี่ไปรบอ้วนสุด ฝ่ายเล่าปี่ให้เตียวหุยอยู่รักษาเมือง แต่ด้วยเตียวหุยเป็นคนหยาบช้าทั้งติดสุรา ทำให้ลิโป้แว้งกัดชิงตีเอาเมืองชีจิ๋วไว้ได้ กลับให้เล่าปี่ไปอยู่เมืองเสียวพ่ายแทน เล่าปี่แสร้งมีน้ำใจไม่วู่วามจึงรับไว้

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

ประวัติสามก๊ก กวนเป๋ง

ประวัติสามก๊ก กวนเป๋ง


สามก๊ก กวนเป๋ง

เป็นบุตรกวนเต๋ง และเป็นน้องชายของกวนเหล็ง ต่อมากวนเต๋งยกให้เป็น บุตรบุญธรรมกวนอู จึงติดตามกวนอูอยู่เสมอ ทั้งเมื่อยามสงบ และยามรบ มีฝีมือในการรบพอสมควร(ที่กวนเต๋งไม่ยกกวนเหล็งให้เพราะจะให้กวนเหล็งสืบสกุลของกวนเต๋งต่อไป) ตอนที่กวนอูเสียทีให้แก่ลกซุน ไม่เพียงแต่ถูกยึดเมืองเกงจิ๋ว แต่ยังถูกทหารฝ่ายง่อก๊ก ไล่ต้อนจนไปเข้าตาจนที่เมืองเป็กเสีย กวนอูและกวนเป๋งตัดสินใจฝ่าวงล้อมออกมา แต่ในที่สุดก็ถูกทหารฝ่ายง่อก๊กจับได้ และถูกซุนกวนสั่งประหารชีวิตพร้อมกันทั้งสองคน
สามก๊ก กวนเป๋ง
สามก๊ก กวนเป๋ง

สามก๊ก ตอนที่ 11 พระเจ้าเหี้ยนเต้หนีตาย

สามก๊ก ตอนที่ 11 พระเจ้าเหี้ยนเต้หนีตาย

ฝ่ายลิฉุย กุยกี ทำการหยาบช้ามิได้ขาด เอียวปิวขุนนางรับใช้พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงใช้แผนยุยงให้ลิฉุย กุยกีหมางใจกันหวังให้รบพุ่งฆ่ากันตาย ต่างคนต่างแย่งชิงพระเจ้าเห้ยนเต้ในอาณัติ ทำศึกบาดหมางกันตลอด ฝ่ายตังสินกับเอียวฮองจึงพาพระเจ้าเหี้ยนเต้หนีออกมาได้คิดพาไปพำนัก ณ เมืองลกเอี๋ยงเมืองหลวงเดิม แต่ถูกไล่กระชั้นชิด ตังสินกับเอียวฮองจึงเชิญเสด็จหนีทั้งกลางวันกลางคืน พอถึง ณ เมืองลกเอี๋ยงทรงทอดพระเนตรเห็นพระราชตำหนักแลตึกรามบ้านช่องที่มีมาแต่ โบราณเป็นที่เพลิงไหม้สิ้น จึงทรงพระกรรแสง ขุนนางที่เหลือทั้งปวงจึงเชิญเสด็จ ณ ที่อยู่

ประวัติสามก๊ก ลิยู

ลิยู
ลิยู


ลิยู เป็นบุตรเขยตั๋งโต๊ะ ขณะเดียวกันก็เป็นกุนซือคนสำคัญของตั๋งโต๊ะอีกด้วย เป็นผู้วางแผนให้ตั๋งโต๊ะ ยกทัพ เข้าเมืองหลวง ตั๋งโต๊ะต้องการที่จะยก หองจูเหียบ ขึ้นครองราชย์ ลิยูจึงให้คำแนะนำ ว่า แผ่นดิยังไม่สงบ ขุนนาง ผู้ใหญ่ ก็ยังไม่มี ให้รีบทำ ให้พาขุนนาไปงกินโต๊ะที่สวนดอกไม้ ตำบล อุนเบงหุ้ย ถ้าขุนนางคนไหนคัดค้านก็ให้ ฆ่า เพื่อตั๊งโต๊ะจะได้มีอำนาจเพียงผู้เดียว

เมื่อตั๋งโต๊ะได้ประกาศว่า ตนเองจะปลด พระเจ้าเซ่าเต้ออกจากตำแหน่ง แล้วยกหองจูเหียบขึ้นมาแทนไม่มีใคร กล้าขัด ตั๊งโต๊ะ มีเพียงเต๊งหงวนเจ้าเมืองเตงจิ๋วเท่านั้น ที่ลุกขึ้นมาด่าตั๋งโต๊ะว่าเปนขบถ ตั๋งโต๊ะโกรธเป็นอันมากจึง ชักกระบี่ จะฆ่าเต๊งหงวนเสีย ลิยูเห็นว่าทหารคุ้มกันของตั๋งโต๊ะ คือ ลิโป้ มีรูปร่างสูงใหญ่เป็นอันมาก จึงห้าม ตั๋งโต๊ะว่า วันนี้ท่านทั้งปวง มากินเลี้ยง ขออย่าให้มีเรื่องเคืองใจกันเลย จากนั้นเต๊งหงวนก็ออกจากงานไป

วันต่อมา ได้้เกิดการปะทะกันขึ้น ระหว่างกองทัพของตั๋งโต๊ะ และ เต๊งหงวน ตั๋งโต๊ะได้เห็นฝีมือการรบของ ลิโป้ ผู้เป็นทหารเอกของเต๊งหงวน ก็มีความโปรดปรานในตัวลิโป้ อยากได้ลิโป้มาใช้งานเป็นอันมาก จึงปรึกษา กับนายทหาร ทั้งปวง ลิซก อาสาไปเกลี้ยกล่อมลิโป้ โดย ขอม้าเซ็กเธาว์ และเงินทองสิ่งของเป็นอันมาก ตั๋งโต๊ะปรึกษากับลิยู ลิยูจึงบอกว่า “ท่านคิดการใหญ่ ใยเสียดายแค่ม้าตัวเดียว้” ตั๊งโต๊ะเมื่อได้ฟังก็ยินดี จึงส่ง ลิซกไปพร้อมกับ ม้าเซ็กเธาว์และทรัพสมบัติเป็นอันมาก

เมื่ือตั๋งโต๊ะปลดพระเจ้าเซ่าเต้แล้ว ตั้งหองจูเหียบ ทรงพระนามว่า พระเจ้าเหี้ยนเต้แล้ว ได้สั่งขังหองจูเปียน (พระเจ้าเซ่าเต้) กับพระนางโฮเฮา และสั่งให้ลิยูพร้อมนายทหาร10คนไปสังหาร หองจูเปียน และพระนางโฮเฮา ลิยูได้ส่งจอกเหล้าให้หองจูเปียน และเมื่อ เห็นว่าหองจูเปียนไม่ยอมกิน จึงกรอกเหล้าพิษ และได้สั่งให้ทหาร มัดนางโฮเฮากับนางสนมจนตาย

ครั้นเมื่อ พันธมิตร18หัวเมือง ได้ฆ่าฮัวหยง และ 3พี่น้องสวนท้อได้สู้รบกับลิโป้แล้ว ตั๋งโต๊ะปรึกษากับลิยูว่าจะทำอย่างไร ลิยูได้ให้คำแนะนำว่า ให้ย้ายเมืองหลวง จากลกเอี๋ยงไปเตียงฮัน และ ได้แนะนำให้ปล้นชาวเมือง และขุดศพเชื้อพระวงศ์ นำสิ่งของมีค่า ไปด้วย... พร้อมทั้งแนะนำให้ฆ่าพรรคพวกของอ้วนเสี้ยวในเมืองหลวงด้วย ขณะที่กำลังจะย้ายนั้น ลิยูได้แนะนำตั๋งโต๊ะไห้ซุ่มกำลังคนไว้ที่ตีนเขาเพื่อป้องกันข้าศึกติดตามมาจู่โจม

เมื่อตั๋งโต๊ะถูกกลสาวงามของอองอุ้น ลิยูได้ให้คำแนะนำว่าให้ยกนางเตียวเสี้ยนให้ลิโป้เพื่อซื้อใจ ตั๋งโต๊ะไม่เชื่อฟัง ในที่สุด จึงถูกฆ่า โดยมือของลิโป้ ส่วนลิซก ก็นำกำลังคน ไปจับตัวบุตร และ ภรรยาของลิยู และตัวลิยู ประหาร

*เมื่อกองทัพ18หัวเมือง ยกทัพเข้าลกเอี๋ยงได้แล้ว ก็พบว่า ตั๋งโต๊ะ ได้ยกทัพหนีไปเมืองเตียงฮัน โจโฉเสนอให้ยกทัพติดตามไป แต่อ้วนเสี้ยว ผู้นำกองทัพ 18 หัวเมืองไม่เห็นด้วย โจโฉจึงนำกำลังของตน ไล่ติดตามกองทัพตั๋งโต๊ะไปแต่เพียงผู้เดียว แต่สุดท้ายก็แตกพ่ายให้กับทหารที่ลิยูซุ่มเอาไว้ เพราะคาดการณ์ออกว่ากองทัพพันธมิตรจะต้องติดตามมา

ประวัติสามก๊ก โตเกี๋ยม กงจู่

โตเกี๋ยม กงจู่

โตเกี๋ยมมีชื่อรองว่ากงจู่ (Gongzhu) เป็นเจ้าเมืองชีจิ๋ว เป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน 

เมื่อครั้งที่โจโฉได้เป็นใหญ่หลังจากที่ตั๊งโต๊ะถึงกาลอวสานแล้ว ได้เชิญให้โจโก๋ (Cao Song- เฉาซง ) ผู้เป็นบิดาเข้ามาอาศัยอยู่กับตน ขณะที่ขบวนรถของโจโก๋ผ่านเมืองชีจิ๋วนั้น โตเกี๋ยมจึงออกไปคารวะ จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างดี และยังให้เตียวคี (Zhang Kai- จางไข่ ) นำทหารห้าร้อยคนคุ้มกันไปส่งด้วย แต่เตียวคีและทหารห้าร้อยคนของโตเกี๋ยมนั้น เป็นโจรโพกผ้าเหลืองเก่ามาก่อน เห็นว่าโจโก๋มีทรัพย์สมบัติมาด้วยเป็นจำนวนมาก จึงวางแผนบุกฆ่าโจโก๋และครอบครัวเสียสิ้น แล้วขนสมบัติหนีไป พอโจโฉรู้เข้า ก็เกิดความแค้นใจยิ่งนัก นำทัพใหญ่หมายจะเข้าตีชีจิ๋วให้ราบ และเนื่องจากโตเกี๋ยมนั้นไม่มีขุนศึกดีๆมีแต่ขุนนางฝ่ายบุ๋น ทำให้โจโฉยกทัพมาถึงชีจิ๋วได้อย่างง่ายดาย

โตเกี๋ยม กงจู่
โตเกี๋ยม กงจู่
โตเกี๋ยมจึงปรึกษากับขุนนางว่าจะไปมอบตัว ให้โจโฉฆ่าเสียคนเดียวเพื่อไม่ให้ราษฎรเดือดร้อน แต่บิต๊ก (Mi Zhu- หมีจู ) ได้ไปขอกำลังจากขงหยง (Kong Rong- ข่งหยง ) และเล่าปี่มาช่วย โดยเล่าปี่ในขณะนั้นเพิ่งเสร็จศึกจากการช่วยเหลือขงหยงป้องกันเมืองเป้ยไฮ่ (Bei Hai) ของขงหยงซึ่งถูกพวกโจรโพกผ้าเหลืองล้อมเมืองไว้โดยเล่าปี่เขียนจดหมายถึงโจโฉพร้อมกับส่งเตียวหุยไปเจรจาสงบศึกกับโจโฉแต่ยังไม่ทันที่โจโฉจะได้รบขั้นแตกหักกับฝ่ายโตเกี๋ยม ลิโป้ก็เข้าตีฐานทัพของโจโฉที่เมืองกุนจิ๋วซึ่งโจหยิน (Cao Ren- เฉาเหยิน ) รักษาอยู่และกำลังเพลี่ยงพล้ำ ทำให้โจโฉต้องถอนทัพกลับ

โตเกี๋ยมเห็นว่าเล่าปี่คนเป็นมีคุณรรมและมีความสามารถ  จึงเชิญเล่าปี่เป็นเจ้าเมืองแทนตน แต่เล่าปี่ไม่รับ จนกระทั่งวันหนึ่งโตเกี๋ยมเกิดป่วยหนักมาก จึงขอร้องให้เล่าปี่รับเป็นเจ้าเมืองแทนตน แล้วก็สิ้นใจ เมื่ออายุได้ 62 ปี

โตเกี๊ยมมีลูกชายสองคนคือ โตเอ๋งกับอีกคนนึงไม่ทราบชื่อ แต่ไม่มีบทบาทอะไรในประวัติศาสตร์เลยแม้แต่นิดเดียว

สามก๊ก ตอนที่ 10 ลิโป้เข้าพึ่งใบบุญเล่าปี่

สามก๊ก ตอนที่ 10 ลิโป้เข้าพึ่งใบบุญเล่าปี่


ฝ่ายโตเกี๋ยมป่วยหนักใกล้ตาย ได้เรียกเล่าปี่เข้ามาเพื่อขอให้เป็นเจ้าเมืองต่อแล้วขาดใจตาย เล่าปี่นึกเอ็นดูแก่ชาวเมืองจึงรับไว้

ฝ่ายโจโฉหลังจากอยู่ ณ เมืองเอียนเสีย เข้าปราบปรามโจรได้เคาทูมาเป็นพวก เห็นกองกำลังลิโป้ที่เมืองกุนจิ๋วอ่อนล้าจึงรบเอาได้โดยง่าย แล้วหักเอาเมืองปักเปี้ยง ลิโป้เข้ารบพุ่งต้านทานสู้ไม่ได้ล่าถอยหนี โจโฉออกตามตีกระหน่ำ ลิโป้เสียทีหกระเหินไปพึ่งใบบุญเล่าปี่ ณ เมืองชีจิ๋ว แต่ขัดเคืองใจกับเตียวหุย เล่าปี่จึงจัดแจงให้ลิโป้กับครอบครัวอยู่ ณ เมืองเสียวพ่าย อันเป็นเมืองน้อยของชีจิ๋ว